สัปดาห์ที่ผ่านมาคือสัปดาห์ “หงายไพ่” ของผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ต่อจาก “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ทิ้งตัวไปบนฟูกอย่างเป็นทางการว่า “ไม่ลงสมัคร” อีกต่อไป
พร้อมกับจะสนับสนุน “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำอย่างเต็มกำลัง
เมื่อ “มาดามแป้ง” ตัดสินใจหงายไพ่ เปิดตัวทีมงานชิงสภาบอลไทย มีแต่ระดับ แจ๊ค, แหม่ม, คิง, เอจ เมื่อวันจันทร์ จากนั้นก็มาสมัครเป็นคนแรก เมื่อวันพุธที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา
แน่นที่สุด มีสองฝั่งเหมือนเดิม 1.เต็มเครื่องสุดยอด กับ 2.นี่มันเหล้าเก่าในขวดใหม่นี่หว่า!?!??!?!?!?
มาดามแป้ง บอกว่า มีสโมสรรับรองแล้ว 60 เสียง จากที่ต้องการแค่ 3 เสียง
รายชื่อ “ทีมแป้ง” มีอุปนายกสมาคมฯ 5 คน นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, นายอรรณพ สิงห์โตทองรองประธานชลบุรี เอฟซี, บิ๊กป๋อม” นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณอุปนายกสมาคม ฝ่ายฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด,“อ.หรั่ง” นายชาญวิทย์ ผลชีวิน สมาชิกวุฒิสภา อดีตกุนซือทีมชาติไทย และ นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานเมืองทอง ยูไนเต็ด
กรรมการกลาง 13 คน “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตกองหน้าทีมชาติไทย, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พ.ต.ท.หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร จากสโมสรราชประชา, “เสี่ยรุท” นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย ประธานที่ปรึกษาชัยนาท ฮอร์นบิล, เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล จาก เมืองเลย ยูไนเต็ด, ดร.นภัสนันท์ พรรณิภา, นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, น.ท.นพ.พรเทพม้ามณี ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกายกรุงเทพ (BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ, “นายกเกียร์”นายทรงเกียรติ ลิ้มอนุรักษ์ ประธานพีที ประจวบ เอฟซี, “บิ๊กฮั่น”นายมิตติ ติยะไพรัช ประธานเชียงราย ยูไนเต็ด, นายธนวัชร์นิติกาญจนา ประธาน “ราชันมังกร” ราชบุรี เอฟซี, “มาดามจอย”กฤษยา ภู่มงคลสุริยา รองประธานหนองบัว พิชญ เอฟซี และ นายกุดั่น สุขุมานนท์ ที่ปรึกษากฎหมาย บีจี ปทุม
ทำความเข้าใจกันก่อนกับทุกท่านที่อาจจะไม่ทราบเรื่องนี้ ซึ่งการเลือกตั้งสมาคมบอล นั้น ผู้สมัครจะต้องมีสโมสรรับรอง จะเป็นสโมสรอะไรก็ได้ ที่เป็นสมาชิกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
ไม่ใช่ “โหวตเตอร์” ที่มี 73 สโมสร มีสิทธิ์เลือก
ดังนั้น เสียงที่จะยกมือให้ มาดามแป้ง “ไม่ใช่ 60 เสียง”
ลองแงะจากทีมสภากรรมการ มีใครบ้าง…..การท่าเรือ,บีจี ปทุม, บุรีรัมย์, ชลบุรี เอฟซี, เมืองทอง, ชัยนาท ฮอร์นบิล, พีที ประจวบ, เชียงราย ยูไนเต็ด, ราชบุรี เอฟซี, หนองบัว พิชญ และ อาจจะ ดราก้อน ปทุมวัน ที่มี ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นั่งที่ปรึกษา
รวมแล้วมีสารตั้งต้น 10-11 ทีม
แต่ที่น่าสนใจคือ หลายทีมเป็นทีมระดับบิ๊ก มีฐานเสียงอยู่ข้างหลัง เมื่อมาคิดถึง “สปอนเซอร์” และการเป็นทีม “พันธมิตร” คลี่หลังฉากทีมอย่าง ท่าเรือ, บีจี, บุรีรัมย์, เมืองทอง, ชลบุรี, หนองบัว น่าจะแตกหน่อได้อีกเยอะ จาก 73 เสียงที่เป็นโหวตเตอร์
ผู้ชนะนั่นหมายว่าต้องได้และต้องการ 37 เสียง เพื่อเกินกึ่งหนึ่ง หากลองเคคาะออกมาแล้วเท่ากับว่า “ทีมมาดามแป้ง” จะหาอีก 25-26 เสียง เพื่อตำแหน่งนี้ที่ต้องการ
น่าสนใจตรงนี้ก็คือ เมื่อระดับมหาอำนาจเกาะกลุ่มแน่นขนาดนี้ ทีมย่อยๆ ลงไป ทีมไหนล่ะจะกล้าแตกแถวหรือไม่ เพราะรู้ว่าหากแตกแถวไปแล้วก็สู้ลำบาก หากเรา “คิดง่าย” หรือ “คิดง่ายๆ” นั่นก็คือ งั้นก็ตามน้ำดีกว่า เพื่ออะไรๆ จะได้สะดวกสบายง่ายขึ้น
ด้วยระบบการเลือกตั้งแบบนี้ ทำให้ดูเหนือกว่าอีก 5 คนอย่างชัดเจนที่สุด
“ตามหน้าเสื่อ” เมื่อเป็นแบบนี้ “ป๊อก” นายวรงค์ ทิวทัศน์ อดีตโกล์ฟุตซอลทีมชาติไทย-เลขาฯไทยลีก, “พอลลีน” พยุริน งามพริ้ง หรือ “ป้อ” อดีตประธานเชียร์ไทยพาวเวอร์, “ตุ๋ย” นายธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ และนายสุรชัย นิวาสพพันธุ์ ทนายความที่เป็นอดีตนักเตะ รวมถึง “อ๋อวังโอ่ง” คมกฤช นภาลัย อดีตผู้สื่อข่าวกีฬา
ทั้งหมดถูกหลายภาคส่วนทั้งวงในวงนอกมองว่า จะอยู่แค่หน้ากระดาษ ไม่ได้เปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงมาได้
หลายคนมองว่า สิ่งเดียวที่ทีมผู้ท้าชิงจะได้และได้ทำนั่นก็คือ มีพื้นที่เพื่อส่งเสียง ส่งความต้องการ ฝากต่อนโยบายเท่านั้น…..
หรือแม้แต่ คู่ชิงเบอร์ 1 “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ก่อนหน้านี้ ยึกยักจะลง หรือไม่ลง ไม่เอาให้แน่ เมื่อทีมมาดามแป้ง รวมบิ๊กๆ ได้ขนาดนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องกลัว ไม่จำเป็นต้องเคลียร์แล้ว มหาอำนาจ ยังเกาะกลุ่มแน่น ไม่มีแตกแถว จึงยากที่ พล.ต.อ.สมยศ จะไปแซะ ไปหาคะแนน
สุดท้ายจะด้วยคำพูดอะไรก็ตามแต่ สิ่งที่เราเห็นก็คือ “ไม่ได้ชูแค่ธงขาว” เท่านั้น
อย่าลืมว่า แบ๊กอัพ ที่ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไก่เป็นเป็ด กดรีโมทเปลี่ยนช่องไปพักใหญ่แล้ว
พูดถึง “นายกอ๊อด” ก็ไม่คุ้มกับการไปดิ้นรนที่จะสู้ด้วย เพราะถึงตอนนี้ก็เจ็บตัวไปเยอะแล้ว และดูท่าทีแม้ปากจะไม่พูด แต่อาการค่อนข้างชัดว่า เกียร์ว่าง…ปล่อยจอย
คนใกล้ตัวท่าน เล่าให้ฟังว่า ยังไงก็เหนื่อย ขนาดกรณีของ อิชิอิ อุตส่าห์จัดทำด้วยความ “หวังดี” ก็ถูกมองว่า “ประสงค์ร้าย” ที่ตัดสินใจให้สัญญาระยะสั้น ก็เพราะไม่อยากให้มีภาระผูกพัน เนื่องจากอะไรนะเหรอ
หากให้สัญญา 2 ปี แล้วผลในช่วงแรกที่เจอแต่ของหนักของใหญ่ แล้วเข้าร่องแข้งในสไตล์คนไทยขี้เบื่อ จะเป็นภาระให้กับผู้บริหารชุดต่อไป………
เจอ ญี่ปุ่น, ไปเอเชี่ยนคัพ แล้วมาเจอกับ เกาหลีใต้ ไป-กลับ ถ้าเกิด “แพ้หมด” หรือ “พังเรียบ” ขึ้นมา แล้วคนไทยไม่ทน คนไทยอาย จะทำกันยังไง!!??!
ไม่อยากให้มีภาระจะต้องหาเงินมาจ่ายค่าไล่ออกเกือบ 100 ล้าน……ว่ากันอย่างนี้เลย!!!!
……กลับมาที่การเลือกตั้ง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งโทรศัพท์ ทั้งไลน์โลนต่อเนื่อง กันทั้งวัน กับประเด็นที่ต้องจับตา หากว่ากันตามเชิง ถ้าฟ้าไม่ถล่ม แผ่นดินไม่ทลาย พันธมิตรไม่แตกคอ ฉีกเอ็มโอยูกันเอง ก็จบข่าว มาดามแป้ง จะเป็นนายกหญิงของสมาคมบอลไทยคนแรก
จากกีฬาคนพิการ มาบอลหญิงไทย, ประธานการท่าเรือ, ผู้จัดการบอลชายไทย อีกก้าวของ นวลพรรณ ล่ำซำ คือผู้นั่งบัลลังก์บอลไทย
ก็ต้องขอต้อนรับ และขอให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย เป็นผู้จัดการทีมบอลทีมชาติไทย, เป็นประธานการท่าเรือ ว่ายากแล้ว เป็นนายกบอลไทย ยากกว่าเยอะ
ตอนนี้รักกันดี ผนึกกลมเกลียว แต่เดี๋ยวย่อมมีปัญหาเกิด คนนี้จะเอาอย่างนั้น คนนั้นจะเอาอย่างนี้ การยกมือไหว้ประสานจึงไม่เพียงพอ
ไหนจะเสียงวิจารณ์จากแฟนบอล ที่จะมาเป็นระยะๆ แล้วอย่าลืมว่า มาดามแป้ง ก็มีบทบาท มีงานหน้าที่ในสายอื่นๆ อีก
ความชุลมุนวุ่นวายจะบังเกิด
วันนั้น เมื่อ 8 ปีก่อนลองย้อนไปตอนเข้ามาเป็นประธานท่าเรือใหม่ๆ เนวิน ชิดชอบ เคยกล่าวถึง มาดามแป้ง ว่า “ยินดีต้อนรับสู่นรก”
7 เดือนต่อมา “มาดามแป้ง” ออกโรงขอบคุณ เนวิน ว่า เข้าใจแล้วกับคำที่พูดเอาไว้ว่า ฟุตบอลไทยกับนรก มันเป็นแบบไหนอย่างไร
……..วันนี้ มาดามแป้ง กำลังลงไปนรกขุมที่ลึกกว่าเดิม ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นนายก โดยมีคนที่กล่าวต้อนรับในวันนั้น เป็นที่ปรึกษา!!!!
ความน่าสนใจก็คือ การเลือกตั้งครั้งนี้ “ใครก็รู้” ว่าการล็อบบี้เป็นสิ่งสำคัญ นี่ขนาด “เลือกตั้งรัฐบอล” ยังไหวหวั่นกันขนาดนี้
เวทีใหญ่อย่าง “เลือกตั้งรัฐบาล” จะขนาดไหนกันเชียว
ที่น่าหวั่นใจแทนก็คือ คะแนนเสียงที่กุมเอาไว้ มีกระแสออกมาอีกแล้วว่า “การเมืองดิ้นได้” นับประสาอะไรกับ“ลิ้นมนุษย์” ที่ปลิ้นเข้าปลิ้นออก
สิ่งที่ว่าแน่ ชักจะไม่แน่ คิดไม่ออกให้มองไปทางบูรพาวิถี ว่ากันว่า ชั่วโมงนี้ถนนร้อนเป็นไฟ!!!!
….ทีนี้รูปรสกลิ่นสีมันสัมผัสกันได้ และชัดเจนขึ้นทุกๆ วัน โดยเฉพาะ “กลิ่น” ไม่ดีมันค่อยๆ “โชย” ออกมาเป็นระยะๆ ในเรื่องไม่ชอบมาพากล
หรือว่า “เล่นไม่ซื่อ” นั่นเอง
เจ้าของสโลแกน “Thai Football Transformation” นั่นคือ “พอลลีน” จะกล่าวในวันที่มาสมัครเมื่อวันศุกร์ว่า เรื่องบุคลากรในทีมที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ ยอมรับว่า “มีความพยายามในการจะกดดัน” ให้คนในทีมถอนตัว
ซึ่งตอนนี้ “ทีมพอลลีน” ต้องถอนไปแล้ว 2 คนคือ “เปาปุ้ม” พงศธร เพิ่มพานิช อดีตผู้ตัดสินสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) และ ธร สอระภูมิ โค้ชทีมฟุตบอลอัสสัมชัญ
ในทางเดียวกัน “ทีมป๊อก” วรงค์ ก็ประสบปัญหานี้เช่นกันหลังจาก “เอกสารหลุด” เพราะคนใกล้ตัวทำให้มันนัวเล่นแม้กระแสจะออกมาค่อนข้างดี และทำให้ฝ่ายอื่น “อยู่ไม่สุข” ต้องรีบเปิดตัวทีม ต้องอะไรต่อมิอะไรมากมาย
“ทีมป๊อก” สโลแกน “Get it right” คือทำให้มันถูกต้องเพราะที่ผ่านมามีหลายอย่างยังไม่ถูกต้องที่อยากเข้ามาทำให้มันถูกต้อง กลายเป็นทัพที่ “โดนก่อน” ค่อยๆ หายไปทีละคนสองคน
นี่ทำท่าว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง อาจจะเป็นไปได้ที่ “นิ้วมือ” อาจจะไม่พอนับ!!!
วงยาธาตุนักเลงตั้งข้อสังเกตกันว่า “เล่นกันขนาดนี้” หรือว่า “กลัวกันขนาดนี้” เลยล่ะหรือ
อันนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่า ใครกลัวใคร เพราะบางทีก็ไม่รู้ว่าจะไปกลัวกันทำไมขั้นนี้
ว่ากันตามตรงนี่ไม่ได้สนเลยว่า “ใครกลัวใคร” แต่หลังจากคิดว่ากำลังดูภาพยนตร์ซีรีส์อยู่ดีๆ กลับกลายเป็นเหมือนดูหนัง “จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล”
เพราะมันเหมือนกับว่ามี “ธานอส” อยู่ด้วย!!!
ดีดหาย ดีดหาย ดีดหาย ประหลาดแท้ที่มันมาเกิดขึ้นกับการเลือกตั้งวงการลูกหนังไทย ซึ่งเห็นๆ กันอยู่ว่า “คนรู้จักกัน” หรืออาจจะใช้คำว่า “คนพวกเดียวกัน” แท้ๆ ทำไมต้องขนาดนี้
บางครั้ง ยิ่งแข่งยิ่งแพ้ แต่บางทีอยากแข่งแต่ดันกลัวที่จะแข่ง แบบนี้ก็ไม่ไหว แค่นี้คุณก็แพ้ใจแล้ว
ซีรี่ส์นี้ตั้งแต่จะดูหนังระดับอินเตอร์เนช่ันแนล
กลับกลายเป็นหนังจีนกำลังภายใน เมื่อ 40 ปีก่อน แล้วก็เติมตัวละคร “ธานอส” โผล่เข้ามากลางวงซะงั้น
เจริญมรณสติครับพรี่…ใคร(วะ)เล่นไม่ซื่อ!!!!!
