การแข่งขันกรีฑาว่านต๋า ไดมอนด์ ลีก สนามที่ 13 ซึ่งเป็นสนามรองสุดท้ายของปี ก่อนเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในสุดสัปดาห์นี้ที่เฮย์วาร์ด ฟิลด์ ในยูจีน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีอีเวนต์ถึง 32 รายการให้ชิงชัยกัน
ในการต่อสู้ในสนามที่ 13 ที่คิง โบดวง สเตเดี้ยม ประเทศเบลเยี่ยม หรือ The Memorial Van Damme ปรากฎว่า ยาค็อบ อิงเกอบริกต์เซ่น แชมป์โอลิมปิกชาวนอร์เวย์ ในการวิ่ง 1500 เมตร ที่เพิ่งตกบัลลังก์แชมป์โลก ด้วยการแพ้ให้กับ จอช เคอร์ จากสก็อตแลนด์ ในการแข่งขันที่บูดาเปสต์ กลับมาระเบิดฟอร์มครั้งสำคัญ ด้วยการทุบสถิติโลกได้สำเร็จ
หลังจากเขาเรียกความมั่นใจกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ด้วยการเป็นแชมป์วิ่ง 5000 เมตร ในศึกชิงแชมป์โลก มาในครั้งนี้เขาวิ่งในระยะ 2000 เมตร
ชัยชนะของ อิงเกอบริกต์เซ่น วัย 22 ปี นับเป็นการทำสถิติโลกในการวิ่งกลางแจ้งครั้งแรกของเขา หลังจากเคยทำสถิติโลกในร่มจากการวิ่ง 1500 เมตร ด้วยเวลา 3.30.60 นาที เมื่อปีที่แล้ว
มาในครั้งนี้ทำเวลาได้ 4:43.13 ทุบสถิติเดิมของ ฮิชาม เอล เกร์รูจ์ ตำนานนักวิ่งชาวโมร็อกโก ที่เคยทำไว้ ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี 4:44.79 นาที เมื่อปี 1999
“การทำลายสถิติเป็นเรื่องสนุกอยู่เสมอ” เขา กล่าว “การวิ่งครั้งนี้มีคุณสมบัติเป็นสถิติโลกและไม่ใช่ดีที่สุดในโลก ผมรู้ว่าผมสามารถทำลายสิ่งนี้ได้ แต่มีไวรัสบางชนิดเกิดขึ้นกับตัวผมเมื่อ 10 วันก่อน และผมไม่รู้จริงๆ ว่าวันนี้ผมจะรู้สึกอย่างไร แต่ผมรู้สึกดีมากและวิ่งแข่งได้ดี พูดตามตรง มันยากจริงๆ “
อิงเกอบริกต์เซ่น คว้าแชมป์โดยมี เรย์โนลด์ เชรุยโยต์ ดาวรุ่งจากเคนย่า วัย 19 ปี ทำสถิติใหม่ของประเทศด้วยวลา 4:48.14 ตามมาด้วย สจ๊วร์ต แม็คสเวย์น จากออสเตรเลีย ที่สร้างสถิติโอเชียเนียด้วยเวลา 4:48.77 และ นีลส์ ลารอส ดาวรุ่งชาวดัตช์วัย 18 ปีจบอันดับ 4 พร้อมทำสถิตินักกีฬายุโรป รุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี อยู่ที่ 4:49.68 น.
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มีการทำสถิติของประเทศตัวเองได้มากมายในอีเวนต์นี้ รวมไปถึง สถิติใหม่ของสเปนที่ 4:49.85 โดย มาริโอ การ์เซีย, สถิติดีที่สุดของตัวเอง 4:50.64 ของ นาร์ฟ นอร์ดาส เจ้าของเหรียญทองแดง 1,500 ม.ชิงแชมป์โลกจากนอร์เวย์ รวมถึงสถิติใหม่อเมริกาเหนือที่ 4:51.54 จาก ชาร์ลส์ ฟิลิปเบิร์ต-ธิบูโตต์ จากแคนาดา และสถิติใหม่ของเบลเยียม 4:52.37 นาที จากรูเบน เวอร์ไฮย์เดน
ขณะเดียวกัน เชอริก้า แจ็คสัน ลมกรดวัย 29 ปีชาวจาเมกา แชมป์โลก 200 เมตร 2 สมัยซ้อน ๆ ขยับเข้าใกล้สถิติตลอดกาลเข้าไปทุกขณะ หลังจากเธอเพิ่งวิ่ง 21.41 วินาที ครองแชมป์โลก หมาด ๆ เมื่อ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา คราวนี้เธอทำได้ 21.48 วินาที เป็นสถิติใหม่ในไดมอนด์ ลีก
ตามมาโดย แอนโทนิก สตรอน จากบาฮามาส 22.31 วินาที และเจนน่า ปรันดินี่ จากสหรัฐ 22.47 วินาที
“คุณแค่ต้องทำให้ดีที่สุด และนั่นคือสิ่งที่ต้องทำให้ได้ในวันนี้” แจ็คสัน ซึ่งตอนนี้เป็นเจ้าของสถิติเวลาที่เร็วที่สุดในระยะนี้ถึง 3 จาก 4 ครั้งในประวัติศาสตร์กล่าว “คืนนี้รู้สึกดีจริงๆ ดิฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังไปถึงจุดนั้นจุดแห่่งสถิติโลก โดยรู้สึกว่าตัวเองกำลังเข้าใกล้สถิตินั้นมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีความสนุกสนาน และคืนนี้ฉันก็สนุกจริงๆ”
เธอระบุตั้งแต่ก่อนแข่งว่า เวลานี้ “อยู่ใกล้มาก” กับตำแหน่งสถิติโลก 200 เมตรตลอดการ ที่ทำเวลาเอาไว้ 21.34 วินาที โดย ฟลอเรนซ์ กริฟฟิธ-จอยเนอร์ แห่งสหรัฐอเมริกา ในการคว้าแชมป์โอลิมปิกปี 1988
เธอยังมี “มีโอกาสอีกนัด” ในการแข่งขัน รอบชิงชนะเลิศรายการนี้ ในวันที่ 16 ถึง 17 กันยายนนี้
นั่นจะเป็นช็อตที่ควรค่าแก่การชม…