การแข่งขันกรีฑาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่หางโจว ประเทศจีน ค่ำวันอังคารที่ 3 ตุลาคมนี้ จะเป็นการชิงชัยเหรียญทอง 4×100 เมตรทั้งประเภทชาย และหญิง ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 โดยทีมหญิงแข่ง 20.05 น.และทีมชายแข่ง 20.25 น.
ทีมชายไทย รอลุ้นอาการของ “บิว” ภูริพล บุญสอน ดาวรุ่งพุ่งแรงเจ้าของเหรียญเงิน 100 เมตร ว่าจะหายเจ็บกลับมาทันหรือไม่ หากทันจะทำให้ 4 นักวิ่งไทยตามลิสต์ ประกอบด้วย ไม้ที่ 1 “ไฟเตอร์” ณฐวรรธ เอี่ยมอุดม, ไม้ที่ 2 “ต้า” สรอรรถ ดาบบัง, ไม้ที่3 “เฉาก๊วย” ชยุตม์ คงประสิทธิ์ และไม้ที่ 4 “บิว” ภูริพล บุญสอน
ในรอบคัดเลือกนั้น ไทย ไม่มี บิว ก่อนจะเข้ารอบมาในฐานะทีมที่ทำเวลาได้อันดับที่ 6 หลังจากไม่ได้เข้ารอบแบบอัตโนมัติ ต้องลุ้นเข้ามาแบบอัตโนนาโถ เพราะเราส่งไม้พลาดในระหว่างไม้ที่ 2 สู่ไม้ที่ 3
รอบคัดเลือก ฮีทที่ 1 จีน ทำได้ดีสุด 38.62 วินาที เป็นสถิติดีที่สุดปีนี้ เช่นเดียวกับอันดับ 2 เกาหลีใต้ 38.75 วินาที ดีที่สุดในปีนี้เช่นกัน และอันดับ 3 มาเลเซีย 39.40 วินาที เป็นสถิติดีที่สุดของประเทศ
ฮีทที่ 2 ซึ่ง ญี่ปุ่น เข้าที่ 1 เวลา 38.99 วินาที กอดคอเข้ารอบแบบอัตโนมัติ กับ อันดับ 2 อินโดนีเซีย 39.56 วินาที และอันดับ 3 สิงคโปร์ 39.70 วินาที
หลังวัดสถิติเรียบร้อย ไทย เราสามารถเข้ารอบได้ในฐานะ 2 ทีมที่มีสถิติดีที่สุดที่ไม่ติดท็อป 3 ในแต่ละฮีท โดยมีสถิติเป็นลำดับที่ 6 เข้ารอบมากับ ไชนีส ไทเป
ว่ากันถึง 5 ปีก่อน ญี่ปุ่น เป็นแชมป์เก่า 38.16 วินาที ชุดนั้นประกอบด้วย เรียวตะ ยามากะตะ, ชุนเฮอิ ทาดะ, โยชิฮิเดะ คิเรียว และอาซูกะ เคมบริดจ์ หรือ อาสกะ ลูกครึ่งจาเมกา
ชุดนี้ โยชิฮิเดะ คิเรียว หลงเหลือมาคนเดียว และเพื่อนร่วมทีมคือ ยูกิ โกอิเคะ, โกกิ อูเอยามะ และโชโตะ อูโนะ
อินโดนีเซีย เหรียญเงินครั้งที่แล้ว ลาลู่ มะฮะหมัด ซอห์รี่ นำทีมชุดใหม่มาสู้
จีน ที่ทำเวลาดีที่สุด ได้ที่ 3 ครั้งที่แล้ว ชุดนี้เปลี่ยนใหม่ยกทีมมี เชง กั๊วะเฟ็ง, เซี๊ยะ เช็งอี้ เหรียญทอง100 เมตร, หยาง ไห่บิ๋น และเช็ง เจี๋ยเป็ง
ช่องวิ่งที่ 2 ไทย
ช่องวิ่งที่ 3 ไทเป
ช่องวิ่งที่ 4 มาเลเซีย
ช่องวิ่งที่ 5 อินโดนีเซีย
ช่องวิ่งที่ 6 เกาหลีใต้
ช่องวิ่งที่ 7 ญี่ปุ่น
ช่องวิ่งที่ 8 จีน
ช่องวิ่งที่ 9 สิงคโปร์
ไทย เคยได้เหรียญทองจากวิ่งผลัด 4×100 เมตร ชาย เอเชียนเกมส์ มาแล้ว 5 สมัย ประกอบด้วย ปี 1970, 1974, 1978, 2002 และ 2006
รอคอยเหรียญทองมา 17 ปี
เหรียญเงิน 2 สมัย 1982 กับ 1998 และเหรียญทองแดง 1 สมัย ปี 2010 ซึ่งเป็นเหรียญล่าสุดที่เราทำได้จากอีเวนต์นี้อีกด้วย เท่ากับว่า 13 ปีเราไม่ได้เหรียญมาครองเลยในทุกสี
ทางด้านทีม 4×100 เมตรหญิง เข้ายุคของการโอนสัญชาติยิ่งยากขึ้นไปกว่าเดิม มีแชมป์เก่า บาห์เรน นำโดยสองจอมทัพ ซัลวา อีด นาเซอร์ กับ เอดิดิออง โอดิออง จากไนจีเรีย โอนสัญชาติ บวกกับ อิมมาน เอสซา ยาสซิม และฮาจาร์ อัล-คัลดี ทำสถิติใหม่เอเชียนเกมส์ เมื่อ 5 ปีก่อน 42.73 วินาที เมื่อ 30 สิงหาคม 2018
ฝั่ง ไทย ได้เหรียญทองแชมป์ 2 สมัย ปี 1978 กับ 2010 เหรียญเงิน ปี 1982, 1986, 1994, 2002 และทองแดง 1990, 1998 โดยสองสมัยหลังไม่ได้เหรียญมาครองนับตั้งแต่มหัศจรรย์ปี 2010 ชุดนั้นวิ่งได้เหมือนระเบิดที่รอการถอดสลัก แล้วก็ดังตูมตามในช่วง 50 เมตรสุดท้าย
ชุดนั้นเรามี ภัสสร จักษุนิลกร, ณีรนุช กล่อมดี, ลภัสภร ถาวรเจริญ และ นงนุช แสนราช
ครั้งที่แล้ว ได้อันดับ 4 แพ้ คาซัคสถาน วินาทีเดียว
18 ครั้้งที่ผ่านมา จีน 7 แชมป์มากสุด 7 สมัย(เคยได้ 6 สมัยติด 1982-2006), ญี่ปุ่น ได้แชมป์ 6 สมัย ไทย 2 สมัย, อินเดีย 1 สมัย, ฟิลิปปินส์ 1 สมัย และบาห์เรน 1 สมัย
