การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่น 2023-24 ฤดูกาลนี้นับเป็นปีที่ 32 ในยุคพรีเมียร์ลีก ถ้านับเป็นฤดูกาลแข่งขันลีกสูงสุดคือ ซีซั่นที่ 125 นับตั้งแต่เปิดการดวลแข้งซีซั่น 1888-89 เป็นต้นมา
โดยใช้ชื่อว่า ฟุตบอลลีก(Football League) ตั้งแต่ปี 1888–1892
ตามด้วยคำว่า ฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 1(Football League First Division) ตั้งแต่ปี 1892–1992 ก่อนจะมาเป็นพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน
การบดแข้งหยุดการดวลแข้งไป 2 ช่วงเวลานั่นคือ ระหว่างซีซั่น 1915–16 ถึงซีซั่น 1918–19 เนื่องจากสงครามโลก ครั้งที่ 1 และระหว่างซีซั่น 1939–40 ไปถึง 1945–46 เนื่องจากสงครามโลก ครั้งที่ 2
จากจุดกำเนิดมีทั้งหมด 24 ทีมที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดไปครอง จาก 124 ปีที่ผ่านมา
โดยทีมจากนอร์ธ เวสต์ ได้แชมป์มากถึง 64 สมัย ลอนดอน 21 สมัย และยอร์คเชอร์ 11 สมัย
ซึ่งภูมิภาคของอังกฤษนั้นเหลือเพียง เซาธ์เวสต์ ที่ยังไม่ได้แชมป์ลีกสูงสุด
หากแยกเป็นเมืองนั้น แมนเชสเตอร์ ได้มากที่สุด 29 สมัย ตามมาด้วยทีมจากเมืองลิเวอร์พูล 28 สมัย และกรุงลอนดอน 21 สมัย
หากแยกเป็นทีมนั้น แมนฯยูไนเต็ด ได้มากสุด 20 สมัย ลิเวอร์พูล 19 สมัย และอาร์เซนอล 13 สมัย
กฎใหม่ของพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ คือ ซีซั่นใหม่เหมือนจะมีให้พื้นที่หายใจกับฝ่ายรับมากขึ้น โดยเฉพาะการฟันธงเลยว่า หากลูกบอลสัมผัสนักเตะฝ่ายรับก่อนจะหลุดมาเข้าทางฝ่ายรุกยิงเข้าไป ถ้าฝ่ายรุกคนนั้นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าตั้งแต่แรก ให้ถือว่าล้ำหน้าทันที
การไล่ออกจากสนามในจังหวะโปรเฟสชันนอล ฟาวล์ กรณีฝั่งบุกหลุดเดียวไปแล้ว ถูกกองหลังที่วิ่งตามมาเตะล้มลงไป คือ ใบแดงโดยธรรมชาติ แต่ถ้ามีการสะดุดกันโดยไม่เจตนา จะโดนแค่ใบเหลือง
กรณีนี้คือ ดุลพินิจอีกครั้งที่ผู้ตัดสินจะต้องเป็นผู้ทำงานร่วมกับห้อง VAR ขณะเดียวกัน กรณีฝ่ายบุกยิงเข้า โดนแขนคู่แข่งในกรอบเขตโทษ ก็จะเป็นจุดโทษทันที แต่การลงโทษก็คือ หากพิจารณาแล้วกางแขนจงใจ ฝ่ายรับก็จะโดนไล่ออก แต่ถ้าไม่เจตนาก็จะโดนใบเหลือง
ในเรื่องของพฤติกรรมที่ไม่สุภาพนั้น ได้มีกฎห้ามผู้เล่นเผชิญหน้า รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว หรือสัมผัสตัวผู้ตัดสิน และกรณีมีผู้เล่น 2 คนขึ้นไปที่ล้อมตัวผู้ตัดสินในลักษณะเผชิญหน้ากัน จะได้รับใบเหลือง และจะถูกรายงานไปยังสมาคมฟุตบอล
ห้ามทุกคนที่อยู่ในม้านั่งสำรองลงไปในสนาม เพื่อเผชิญหน้ากับผู้ตัดสิน ทุกช่วงเวลา โดยจะมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่สามารถยืนอยู่ด้านหน้าของเขตเทคนิค ที่เหลือต้องนั่งลง กรณีถ้าจะยืนเป็นคนที่ 2 ให้ยืนติดกับม้านั่งสำรอง ห้ามออกมาที่เส้นเทคนิค
หนึ่งในกรณีการทดเวลาบาดเจ็บ จะถูกเพิ่มเข้าไปในช่วงท้ายเกมสำหรับการดีใจหลังจากมีการทำประตูได้ เช่น ทีม เอ ยิงได้แล้วดีใจ 45 วินาที จะเพิ่มเวลาไปทันทีแบบไม่มีตัด เหมือนในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก
