……35 ปีหลังจากชัยชนะเหนือชัยชนะของ ดั๊ก วิลเลียมส์ เกิดขึ้นกับควอเตอร์แบ๊กผิวสีที่เป็นแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้เป็นคนแรก
หน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของศึกอเมริกัน ฟุตบอล NFL นัดชิงเจ้าซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 57 จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างใหญ่ยิ่ง เพราะนี่จะเป็น “ครั้งแรก” ที่ผู้นำทัพลงสนามจะเป็นการเจอกันของนักกีฬาผิวสี
ซูเปอร์โบวล์ครั้งนี้มีอะไรที่น่าสนใจมากมาย แถมยังผูกและพันกันเป็นปมอย่างเหลือเชื่อในหลายต่อหลายเรื่อง
หลังจบเกมนัดชิงแชมป์สาย ได้สองทีมสุดแกร่งของจริงประจำปีเข้ามาชิงชนะเลิศ “หัวหน้าเผ่า” แคนซัสซิตี้ ชีฟส์ จะพบกับ “อินทรีมรกต”ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ที่สเตต ฟาร์ม สเตเดี้ยมแอริโซน่า สหรัฐอเมริกา ในเช้าวันจันทร์นี้ 06.30 น.
การโคจรมาเจอกันในนัดชิงครั้งนี้ถือว่าสมศักดิ์ศรีอย่างมาก เนื่องจากทั้งสองทีมเป็นทีมที่สถิติดีที่สุดของทั้งสองสายในฤดูกาลปกติ แถมมีสถิติรวมเท่ากันที่ชนะทีมละ 14 เกม และแพ้ทีมละ 3 เกม รวมถึงเพลย์ออฟตอนนี้ทั้งคู่สถิติตรงกันที่ 16-3
๐ การเดินทางของสุดยอดเกม
ซูเปอร์โบวล์ หรือศึกแชมป์โลกของอเมริกันชน เป็นเกมนัดชิงชนะเลิศของ National Football League (NFL) เพื่อตัดสินแชมป์ลีก เป็นเกมสุดท้ายของทุกฤดูกาลของ NFL ตั้งแต่ปี 1966 แทนที่เกม NFL Championship
ในยุคแรกการชิงแชมป์ The National Football League champions เริ่มต้นปี 1920 ทีม อัคร่อน โปรส์ คว้าแชมป์ไปครอง ชื่อว่า APFA หรือ The American Professional Football Association
13 ปีต่อมา เข้าสู่ยุคที่ชื่อว่า การชิงเจ้า NFL หรือ NFL Championship Game เริ่มตั้งแต่ปี 1933 ไปจนถึง ปี 1965 ก่อนจะเข้าสู่ยุคของ ซูเปอร์โบวล์ Super Bowl championship อย่างเต็มตัว ในปี 1966
หนึ่งในข้อตกลง “ครั้งสำคัญ” สำหรับการควบรวมกิจการระหว่าง NFL และ American Football League (AFL) ในปี 1966 เพื่อให้ทีมที่ดีที่สุดทั้งสองฝ่ายชิงแชมป์กัน
เดิมเรียกว่าเกม AFL–NFL World Championship จนกระทั่งคำว่า “Super Bowl” ถูกนำมาเรียกในครั้งที่ 3 เมื่อปี 1969
นัดชิงชนะเลิศ 4 ครั้่งแรก ทีมจาก NFL และ AFL ต่างก็ชนะสองรายการ กระทั่งมีการควบรวมกิจการสำเร็จในปี 1970 ทีมจาก AFL 10 ทีมและทีม NFL อีก 3 ทีมได้ก่อตั้ง American Football Conference (AFC) ขณะที่ทีม NFL ที่เหลืออีก 13 ทีมได้ก่อตั้ง National Football Conference (NFC)
เกมทั้งหมดนับตั้งแต่ซูเปอร์โบวล์ที่ควบรวมแล้ว จากครั้งที่ 5(V) ในปี 1971 เป็นต้นมา ปรากฎว่า ทีมจากสาย NFC ครองแชมป์ได้มากกว่า โดยตอนนี้ได้ไป 27 ครั้ง AFC 25 ครั้ง
จาก 32 ทีมปัจจุบันของ NFL มีทั้งหมด 20 ทีม ที่เคยครองแชมป์นี้ โดยเป็น 11 ทีมของ NFC กับอีก 9 ทีมของ AFC
พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส กับ นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ครองแชมป์มากที่สุดทีมละ 6 สมัย ซึ่ง เพเทรียต์ส ยังเข้าชิงได้มากที่สุดที่ 11 ครั้งในบรรดาแฟรนไชส์ โดยทีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมี 2 ทีม นั่นคือ ดัลลัสคาวบอยส์ กับ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส ที่ได้แชมป์ทีมละ 5 สมัย
จนถึงเวลานี้เหลือแค่ 4 ทีมที่ไม่เคยเข้าชิงเลย นั่นคือ คลีฟแลนด์ บราวน์ส, ดีทรอยต์ ไลออนส์, แจ๊คสันวิลล์ จากัวร์ส และฮูสตัน เท็กซันส์
๐ จอมทัพผิวสีสู่“ความเสมอภาค”
วันที่แข่งขัน ซูเปอร์โบวล์ จะถูกเรียกว่า “Super Bowl Sunday” หรือเรียกอีกชื่อง่าย ๆ ว่า “Super Sunday”
หนึ่งในซูเปอร์ ซันเดย์ ที่โลกไม่ลืมก็คือ ปี 1988 ดั๊ก วิลเลียมส์ เป็นควอเตอร์แบ๊กผิวสีคนแรกที่ได้ลงเล่นและคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ กับ วอชิงตัน เร้ดสกินส์
ตั้งแต่นั้นมาก็มีควอเตอร์แบ๊กผิวสีอีก 6 คนเท่านั้นที่เข้าสู่เกมใหญ่นี้ แต่คนที่ได้แชมป์มีแค่ รัสเซลล์ วิลสันปี 2014 และ พาทริค มาโฮมส์ เมื่อปี 2000
ความพิเศษของศึก LVII ก็คือ นี่เป็นซูเปอร์โบวล์ครั้งแรกที่มีควอเตอร์แบ็คที่เป็นคนผิวสี 2 คนได้มาเจอกัน
นับเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและพ้นข้อจำกัดสำหรับลีกที่ว่ากันว่า เต็มไปด้วยความไม่เสมอภาคมานานหลายทศวรรษ
ในอดีตผู้เล่นผิวสีถูกมองว่าขาดคุณสมบัติความเป็นผู้นำ หรือความเฉลียวฉลาดที่จะเป็นเลิศในตำแหน่งนี้ผู้เล่นฟุตบอลผิวสีมักถูกกีดกันไม่ให้เล่นในตำแหน่งควอเตอร์แบ๊ก และต้องใช้เวลาจนถึงซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 22 สำหรับ ดั๊ก วิลเลียมส์ ที่เริ่มกำชัยในซูเปอร์โบวล์
กระทั่งมาถึงปีนี้จะเป็นการปะทะกันของ พาทริค มาโฮมส์ และเจเลน เฮิร์ทส์
นี่คือครั้งที่ 4 ตลอดกาลที่จอมทัพผิวสีจะได้ผงาดในโลกของอเมริกัน ฟุตบอล
๐ “รีฮันน่า”ที่ไม่หันหลังให้อีกต่อไป
ข้อมูลของ Variety ระบุว่า สปอตโฆษณา “ซูเปอร์โบวล์” ปีนี้ ระหว่าง แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ กับ ฟิลาเดลเฟียอีเกลส์ จะมีทั้งสิ้น 70 รายการ โดยมีค่าใช้จ่าย 7 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อ 30 วินาที หรืออย่างน้อยคือ233,333 เหรียญต่อวินาที!!!
แพงเหลือหลาย
ขณะที่พิธีเปิดงาน เพลงชาติมะกัน “The Star-Spangled Banner” จะขับร้องโดย คริส สเตเปิลตันดาราระดับประเทศจาก “America the Beautiful” ร่วมแสดงกับ “Babyface” นักร้องอาร์แอนด์บี
การแสดงช่วงพักครึ่ง Super Bowl Halftime Show ที่เป็นไฮไลท์สำคัญของทุกปี ปีนี้คือ “ริฮันน่า” มีกำหนดจะแสดงต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่งานประกาศผลรางวัลแกรมมี่อวอร์ดปี 2018
การปรากฏตัวของเธอมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ นั่นคือ Apple Music ซึ่งเข้ามาแทนที่ Pepsi ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของการแสดงช่วงพักครึ่ง
ที่ผ่านมา แฟนชนคน ทำท่าว่าจะไม่ได้เห็น ริฮานน่า ขึ้นแสดง เนื่องจากได้ปฏิเสธคำเชิญหลายครั้ง เพื่อเป็นการสนับสนุน โคลิน แคปเปอร์นิค อดีตจอมทัพของโฟร์ตี้ไนเนอร์ส ที่เขาปร
ะท้วงความโหดร้ายของตำรวจและความอยุติธรรมทางเชื้อชาติด้วยการคุกเข่าระหว่างเพลงชาติ
เพลงของเธอติด Billboard Hot 100 ในการเป็นอันดับ 1 ถึง 14 เพลง ติดท็อปเทน 32 เพลง และมีเพลงติดชาร์ตทั้งหมดถึง 63 เพลง คาดเดาลำบากว่าเธอจะโชว์เพลงไหน
๐ การโรมรันของพี่น้องและผองโค้ชที่พันตู
การปะทะกันของจอมทัพผิวสีครั้งแรกสร้างความรู้สึกน่าสนใจอย่างมากแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นี่เป็นครั้งแรกด้วยที่พี่น้องได้โคจรมาปะทะกันเอง จนถูกเรียกกันว่าเป็น “เคลซี โบวล์”
อีเกิลส์ มี เจสัน เคลซี่ ผู้พี่เป็นเซนเตอร์คอยสแนปบอลจอมทัพของอีเกิลส์จะได้ปะทะกับน้องชาย ทราวิสเคลซี่ ปีกในซึ่งถือเป็นเป้าหลักของ เคซี
เจสัน วัย 35 ปี มีอายุมากกว่า 2 ปี ทั้งคู่เรียนที่เดียวกันทั้งไฮสคูล ที่คลีฟแลนด์ ไฮจ์ส และคอลเลจ ที่ซินซินเนติ แถมยังมีรายการพอดแคสต์ด้วยกันในชื่อ New Heights with Jason and Travis Kelce แน่นอนว่าพี่น้องคู่นี้สนิทกันแทบจะใส่ฟันปลอมให้กัน
ทั้งสองคนเคยขึ้นสู่ยอดเสาในการครองแชมป์ โดยพี่เจสัน ได้ก่อนเมื่อซูเปอร์โบวล์ 52 และให้หลัง 2 ปีน้องทราวิส ก็ทำสำเร็จ แต่จะไม่ได้ปะทะกันในสนามแน่นอน เพราะคู่นี้อยู่ในทีมบุก
ที่ผ่านมาในซูเปอร์โบวล์ เคยมีพี่น้องลงสนามพร้อมกัน นั่นคือครั้งที่ 53 แต่อยู่ทีมเดียวกันนั่นก็คือ เจสันกับ เดวิน แม็คคอร์ธี คู่แฝดแห่งนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ที่คว้าแชมป์ด้วยการปราบ แอลเอ แรมส์
นอกจากนี้ยังมีการเจอกันของพี่น้องตระกูล “ฮาร์บอห์” ในครั้งที่ 47 จอห์น ฮาร์บอห์ ผู้พี่ เป็นเฮดโค้ชของบัลติมอร์ เรฟเว่นส์ ปราบ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส ที่มี จิม ฮาร์บอห์ น้องชายคุมทัพ
สายเลือดยิ่งใหญ่ สายสัมพันธ์ก็ใหญ่ยิ่ง เพราะ แอนดี้ รีด เฮดโค้ชชีฟส์ เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของ อีเกิลส์
รีด ทำงานคุมอีเกิลส์ทีมถึง 13 ปี พาทีมเข้าชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี ถึง 5 ครั้ง และได้ดข้าซูเปอร์โบวล์ 1 ครั้ง ก่อนเข้ามาคุมชีฟส์ เมื่อปี 2013
ฟากฝั่ง นิค ซิเรียนนี เฮดโค้ชอีเกิลส์ วัย 41 ปี ในอดีตที่ผ่านมาก็ทำงานเป็นทีมโค้ชกับ ชีฟส์ เป็นเวลา 4 ปีเต็ม ๆ ก่อนจะย้ายออกไปอยู่กับ “เจ้าชายสายฟ้า”ซานดิอาโก้ ชาร์เจอร์ส(ในยุคนั้น) ปี 2012 ในฐานะทีมโค้ช ก่อนจะขึ้นรับงานใหญ่เต็มตัวกับ อีเกิลส์ ก็เมื่อปี 2021
๐ ใครจะได้รับการชูมือ
เส้นทางสู่ซูเปอร์โบวล์ปีนี้ ไม่มีคำว่า “พลิกล็อก” ในพจนานุกรม เนื่องจากทีมที่ดีที่สุดของแต่ละฝั่ง ได้เข้ามาชิงกันแบบนี้เป็นหนแรกตั้งแต่ปี 2018
ก็แปลกดีตรงที่ปีนั้น อีเกิลส์ ครองแชมป์ด้วยการดับอหังการ์ของ นิว อิงแลนด์ เพเทรียตส์ ทำให้ “อินทรีมรกต” ครองแชมป์สมัยแรก
ในนัดชิงสาย NFC อีเกิลส์ หักด่าน “คนตื่นทอง” ซานฟรานซิสโก โฟร์ตี้ไนเนอร์ส ขาดลอย 31-7 คะแนน
อีเกิลส์ ยังเปี่ยมไปด้วยเกมวิ่งทรงประสิทธิภาพ จาเลน เฮิร์ทส์ จอมทัพทำสถิติควอเตอร์แบ๊กทำทัชดาวน์จากการวิ่งมากสุดในซีซั่นเดียว หลังจากสกอร์ลูกที่ 15 ในเกมนี้
บวกกับความสะบักสะบอมของจอมทัพไนเนอร์ส ทำให้ อีเกิลส์ บินผ่านมาได้อย่างงามงด
ชีฟส์ เข้าซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 3 ใน 4 ปี ก่อนหน้านี้คือ ชนะ 1 แพ้มา 1 และหลายคนมองว่า มันเป็นไปได้หรือไม่กับ “ไดนาสตี้” ที่จะเกิดขึ้นในยุคคู่หูเฮดโค้ชกับควอเตอร์แบ๊ก นั่นคือ แอนดี รีด กับ พาทริค มาโฮมส์
ที่ดูแล้วอาจจะละม้ายไปกับคู่ของ บิลล์ บีลิชิค กับ ทอม เบรดี้ ที่แมสซาจูเซ็ตต์ส
“หัวหน้าเผ่า” แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ครองแชมป์สายเอเอฟซี หลังจากเบียดชนะซินซินเนติ เบงกอลส์ ลงได้อย่างเร้าใจ 23-20 คะแนน โดย พาทริค มาโฮมส์ ที่เจ็บข้อเท้า กัดฟันโชว์ขว้าง 2 ทัชดาวน์ ได้ระยะ 326 หลา ก่อนจะสร้างเพลย์สำคัญนำทีมมาตั้งระยะหวดฟิลด์โกล์ 43 หลา ของ แอร์ริสันบัตเกอร์ พาทีมกำชัยสุดมันส์ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เรื่องการตัดสินของกรรมการ (ตามสภาพ)
สถิติทีมก็น่าสนใจ เมื่อ ชีฟส์ เป็นทีมมีเกมบุกดีที่สุดในลีก อีเกิ้ลส์ เป็นอันดับ 2, ในเกมรับ อีเกิลส์ ดีสุดเป็นอันดับ 3 ชีฟส์ เป็นอันดับ 12 จำแนกเกมรุกชีฟส์ เป็นทีมที่ขว้างดีที่สุดเป็นอันดับ 1 อีเกิ้ลส์ เป็นอันดับ9 ส่วนเกมขว้างอีเกิ้ลส์ เป็นอันดับ 5 ชีฟส์ อันดับ 20 โดยพบกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2021 ชีฟส์บุกชนะ 42-30 คะแนน
ว่ากันถึงจอมทัพก็สะบักสะบอมพอ ๆ กัน เฮิร์ทส์ ไหล่ขวาแพลงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ถูกมองว่าได้พัฒนาขึ้นอย่างสุดขั้วในฤดูกาลที่ 2 ในฐานะผู้เล่นตัวจริงของฟิลาเดลเฟีย และกลายเป็นควอเตอร์แบ๊กที่คล่องแคล่วว่องไวทรงพลัง
เขาต้องการทีมงานที่มีบัญชีหนังหมาหมายหัวแนวรับฝั่งตรงข้าม เพื่อทำการป้องกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สำหรับความคล่องตัวของเขา เพื่อพื้นที่ในการเคลื่อนตัวไปมา เฮิร์ทส์ ปีนี้ผลงานเด่นชัดเด็ดขาด
เขาทาบสถิติกับ แคม นิวตัน และไคเลอร์ เมอร์เรย์ ในฐานะผู้เล่นคนเดียวที่ขว้างได้ 3,700 หลา 20 ทัชดาวน์ และยังวิ่งได้ถึง 10 ทัชดาวน์
เอาเข้าจริงถ้าหาก เฮิร์ทส์ ไม่เดี้ยงในช่วงระหว่างซีซั่น อาจได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่าที่สุดของลีกแล้วด้วยซ้ำไป
สิ่งสำคัญอีกข้อที่อยากให้จับตาก็คือ ฮาสัน เรดดิก, เบรนดอน เกรแฮม และจอช สวีต รวมถึงแนวรับที่มีเสียงวิจารณ์ว่า “ดุเดือด” และ “ร้ายกาจ” มีวิญญาณนักล่า จะกดดัน มาโฮมส์ ได้ถึงขั้นไหน
เพราะควอเตอร์แบ็คจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ คว้ารางวัลผู้ทรงคุณค่า หรือ MVP ประจำฤดูกาลไปครอง ด้วยสุดยอดผลงาน ในการขว้างเข้าเป้า 67.1% ได้ระยะ 5,250 หลา 41 ทัชดาวน์ เสีย 12 อินเตอร์เซ็ปต์ เรตติ้งการขว้าง 105.2
นี่ถือเป็นการคว้ารางวัล MVP ครั้งที่ 2 ในอาชีพของ มาโฮมส์ และแน่นอนที่สุดก็คือ เป้าหมายถัดไปของเขาคือ การคว้าซูเปอร์โบวล์ สมัยที่ 2
คริส โจนส์ ของเคซี พร้อมพวกจะต้องมีสมาธิในเกมรับแบบสุด ๆ โดยเฉพาะตัวคุมปีกจะสามารถป้องกันเอ.เจ. บราวน์ และเดวอนตา สมิธ ให้หลุดวงโคจรได้หรือไม่
แค่คิดก็สนุกมากแล้ว กำไรของคนดู
คู่นี้ต้องบอกอีกครั้งว่า แล้วแต่คนจะชื่นชอบ เนื่องจากบอลเสถียร แผนดีแผนเด่นต้องชีฟส์ แต่ถ้าจะดูบอลวิ่งที่หลากหลาย วูบวาบ แนะนำให้เชียร์อีเกิลส์
สำหรับการแข่งขันซูเปอร์โบวล์ จะมีขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ตรงกับประเทศไทย เช้าวันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 06.30 น. ทรูถ่ายทอดสด
เอาเข้าจริงก็คือ ซูเปอร์โบวล์ มาเคาะประตูบ้านทีไร….ทำไมต้องคิดถึง ทอม เบรดี้…..
#บีแหลมสิงห์
