…..กรณีที่ “กาตาร์” มีข่าวกับ 2 ทีมดังของอังกฤษ

นั่นคือ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและ”หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

Daily Mail ยืนยันว่า เป็น “กาตาร์” ที่ “ต่างสายต่างศึก”

นี่คือสิ่งสำคัญที่แฟนบอลควรทราบ

นักลงทุนที่เจรจาอยู่กับแมนเชสเตอร์อยู่ไนเต็ดนั้น พวกเขาเป็นนักลงทุนคนละรายกับ QIA ซึ่งกำลังเจรจากับ ลิเวอร์พูล

จากนั้นทิศทางข่าวหลายสื่อก็ยืนยันออกมาแล้วเหมือนกันนั่นก็คือคนละกลุ่ม ทุนคนละส่วนทั้งฝั่งยุโรป และตะวันออกกลาง

ผมเคยเขียนเรื่องนี้เมื่อกลางเดือนก่อน หลังจากกระแสการเข้าเทคโอเวอร์วงการฟุตบอลของ กาตาร์ เจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด เริ่มน่าจับตามองมากขึ้นเรื่อย ๆ

มานซูร์ บิน เอบราฮิม อัล-มาห์มูด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (The Qatar Investment Authority หรือ QIA)มูลค่า 450 พันล้านดอลลาร์ของกาตาร์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของ Bloomberg รายการ World Economic Forum อย่างน่าสนใจ

“เราจะใช้ความวุ่นวายทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นโอกาสในการปรับสมดุลพอร์ตการลงทุน และกำลังพิจารณาการลงทุน 3 ส่วนหลักด้วยกัน”

1.ฟุตบอล

2.สถาบันการเงิน และ 3.เทคโนโลยี

หน่วยงานการลงทุนของกาตาร์ กำลังมองหาโอกาสในยุโรป, เอเชีย และสหรัฐอเมริกาในภาคต่าง ๆ เช่น การร่วมลงทุน, การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจการเงิน หรือ ฟินเทค และความยั่งยืน ที่เชื่อมสัมพันธ์กัน คือ นิเวศวิทยา เศรษฐศาสตร์ การเมือง และวัฒนธรรม

“จากผลงานในฟุตบอลโลก นี่เป็นการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนในเชิงพาณิชย์อย่างมาก” เขากล่าว “กีฬากำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญเช่นกัน ผู้คนมีส่วนร่วมในกีฬามากขึ้น และการแปลงเป็นดิจิทัลทำให้ดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น”

“มันเป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย เงินเฟ้อเป็นหัวข้อหลักสำหรับเศรษฐกิจโลก แต่เรามองว่านี่เป็นโอกาสในการปรับตำแหน่งพอร์ตโฟลิโอของเรา เราเน้นจุดอ่อนที่เรามีในพอร์ตโฟลิโอของเรา และเรารอการแก้ไขเหล่านี้ในตลาดเพื่อเติมเต็มจุดอ่อนที่เรามี”

กาตาร์ ยังคงเป็นผู้เข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องในปีที่แล้ว แม้ว่าปริมาณข้อตกลงทั่วโลกจะลดลงและธนาคารพาณิชย์ลดการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อกิจการ QIA ในเดือนตุลาคมตกลงที่จะลงทุน 2.4 พันล้านยูโร (2.5 พันล้านดอลลาร์) ใน RWE AG เพื่อสนับสนุนการซื้อสินทรัพย์หมุนเวียนในสหรัฐของกิจการสาธารณูปโภคของเยอรมนี นอกจากนี้ยังเป็นนักลงทุนหลักในการเสนอขายหุ้น IPO ของรถสปอร์ตยี่ห้อ Porsche AG และลงทุนในสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอีกหลายรายการ

QIA เป็นที่รู้จักในเรื่องความชอบในทรัพย์สินรางวัล โดยให้การสนับสนุนผู้ให้กู้เช่น Barclays Plc และ Credit Suisse Group AG ในช่วงวิกฤตการเงินปี 2551 ในขณะที่เมื่อเร็ว ๆ นี้การมุ่งเน้นที่บริษัทเทคโนโลยีที่ถือหุ้นอย่างใกล้ชิดได้นำบริษัทไปสู่ตลาดที่มีการเติบโต ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเพิ่มเชื้อเพลิงพิเศษให้กับการกลับมาสู่ข้อตกลงราคาสูง

“สถาบันการเงินยังคงเป็น “เสาหลักที่สำคัญมาก” ในพอร์ตโฟลิโอ และการลงทุนในสถาบันการเงินเหล่านี้ “จะเป็นประเด็นหลักสำหรับเราเสมอ เรากำลังก้าวไปสู่ฟินเทคด้วย”

หลังจากที่กาตาร์ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีการใช้เงินมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา กองทุนก็กำลังพิจารณาลงทุนในสโมสรฟุตบอลด้วย แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะทำข้อเสนอหรือทำการลงทุนแบบใดเป็นพิเศษหรือไม่

“นี่เป็นการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนในเชิงพาณิชย์อย่างมาก” เขากล่าว “กีฬากำลังกลายเป็นประเด็นสำคัญเช่นกัน ผู้คนมีส่วนร่วมในกีฬามากขึ้นและการแปลงเป็นดิจิทัลทำให้ดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น”

กาตาร์ เป็นเจ้าของสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ผ่านทาง QSI( Qatar Sports Investments) และตั้งเป้าไปที่สโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาทิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ “Bloomberg News” รายงาน

ความน่าสนใจก็คือ มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันระหว่าง QIA กับ QSI

Qatar Investment Authority (QIA) คือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของกาตาร์ ก่อตั้งโดยรัฐกาตาร์ในปี พ.ศ.2548 เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยการกระจายสินทรัพย์ประเภทใหม่ ๆ

Qatar Sports Investments (QSI) เป็นองค์กรผู้ถือหุ้นแบบปิดที่ก่อตั้งขึ้นในปีเดียวกัน คือ พ.ศ. 2548 รายได้จากการร่วมทุนจะนำไปลงทุนในภาคกีฬา, สันทนาการ และความบันเทิง

บางข้อมูลระบุว่า QSI เป็นบริษัทในเครือของ QIA เพราะดูแลกระทรวงการคลังกาตาร์ และคณะกรรมการโอลิมปิกกาตาร์ แต่หลายข้อมูลระบุว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด นั่นหมายว่า QSI ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของ QIA

ประธานบริหารของ QSI คือ นาสเซอร์ อัล-คาไลฟี่ ซึ่งเป็นเจ้าของสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง

ขณะที่ QIA ประธานคือ มานซูร์ บิน เอบราฮิม อัล-มาห์มูด คนที่ให้สัมภาษณ์ด้านบน

QIA ก่อตั้งโดย อดีตพระราชาธิบดี ผู้ดำรงตำแหน่งประมุขสูงสุด และมีอำนาจเด็ดขาด(เอมีร์) นั่นคือ ชีค ฮาเหม็ด บิน คาลิฟา บิน ฮาเหม็ด บิน อับดุลลาห์ บิน ยาสซิม บิน โมฮัมเหม็ด อัล ธานี…..

ส่วน Qatari investors แปลตรง ๆ คือ นักลงทุนกาตาร์ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภาครัฐ และสององค์กรด้านบนแต่อย่างใด

น่าสนใจตอนนี้เงินตะวันออกกลางในวงการฟุตบอลอังกฤษ เราเห็นกันหลัก ๆ อยู่หลายที่เอมิเรตส์ มาก่อนใครในการคาดหน้าอก และเป็นไทเทิ่ลสปอนเซอร์ ชื่อสนามของอาร์เซนอล มายาวนานเกือบจะ 20 ปีตั้งแต่ย้ายจากไฮบิวรี่ และเหนียวแน่นที่แอชเบอร์ตัน โกรฟเอติฮัด ไหลมาในเวลาไล่เลี่ยกัน และสร้างอาณาจักรตัวเองที่แมนเชสเตอร์ กับทีมสีฟ้าซาอุดีอาระเบีย คือรายล่าสุด ขึ้นไปไกลถึงไทน์ไซด์กับ นิวคาสเซิ่ล กาตาร์ เป็นเจ้าของอาณาจักรห้างสรรพสินค้าในฝันอย่าง แฮร์ร็อดด์ ส่วนวงการฟุตบอ

ลพวกเขาคือเจ้าพ่อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ที่ยิงสดมาในแถบทวีปเอเชีย

ทีนี้ต้องดูว่า การเสี่ยงมาลัยเลือกทีมจะไปที่ไหน

ยังอยู่ที่นอร์ธ ลอนดอน ฉะกับ เอมิเรตส์ หรือเจาะมาที่แมนเชสเตอร์ ชนกับ เอติฮัด

แลนดิ้งที่เมอร์ซี่ย์ไซด์…..ก็น่าสนใจดี!!!!

นี่คือสิ่งที่น่าสนใจอย่างที่สุด กับการเทคโอเวอร์หนนี้

มูลค่า ยูไนเต็ด ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านปอนด์

มูลค่า ลิเวอร์พูล ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านปอนด์

ถ้าพลาดหนนี้ จะหาคนมีเงินขนาดนี้ แล้วอยากได้ทีมขนาดนี้ น่าจะหายากเต็มทน

บีแหลมสิงห์

ปล. Qatari investors = นักลงทุนกาตาร์

Qatar Investment Authority (QIA) = กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของกาตาร์

Qatar Sports Investments (QSI) = องค์กรผู้ถือหุ้นแบบปิดภาคกีฬา, สันทนาการ และความบันเทิง

ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ลือกันไปก็ลือกันมา…..