การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแรกของฤดูกาล 2023-24 ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม ตรงกับวันแม่ของประเทศไทย มีลงทำการแข่งขัน 6 คู่ด้วยกัน
18.30น.อาร์เซน่อล – น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
เริ่มกันที่เวลา 18.30น. “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล รองแชมป์ฤดูกาลที่แล้ว และเพิ่งคว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เอาฤกษ์เอาชัยด้วยการดวลเป้าชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดหัวด้วยการเล่นในบ้านดวลกับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
เจ้าถิ่นภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เสริมทัพได้น่าสนใจกับการคว้า 3 ผู้เล่นอย่าง เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์, เดแคลน ไรซ์ และไค ฮาแวร์ตซ์ แถมกำลังจะได้ ดาบิด ราย่า มาอีกราย เรียกได้ว่าซื้อมาครบทุกตำแหน่ง แต่เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน กาเบรี่ยล เชซุส ที่ผ่าเข่าพักยาว เช่นเดียวกัน อัลเบิร์ต แซมบี้ โลก็องก้า ส่วน โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ และจอร์จินโญ่ รอทดสอบความฟิต นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร โธมัส ปาร์เตย์ คุมแดนกลางร่วมกับ เดแคลน ไรซ์ โดยมี มาร์ติน โอเดการ์ด เป็นตัวบัญชาการเกมรุกประสานงานกับสามแดนหน้าอย่าง บูกาโย่ ซาก้า, ไค ฮาแวร์ตซ์ และกาเบรี่ยล มาร์ติเนลลี่
ทางฝั่งผู้มาเยือนยังคงไว้วางใจให้ “เฮียง่วง” สตีฟ คูเปอร์ คุมทีมเหมือนเดิม ซัมเมอร์นี้ได้ คริส วู้ด, โอล่า ไอน่า, แอนโธนี่ เอลังก้า และแมตต์ เทิร์นเนอร์ เข้ามาเสริมทีม แต่เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เวย์น เฮนเนสซีย์, โอมาร์ ริชาร์ดส์, มุสซ่า เนียคาเต้ และไตโว่ อโวนิยี่ ที่บาดเจ็บ ทำให้โฉมทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แมตต์ เทิร์นเนอร์ จะได้ลงเฝ้าเสาทันที เกมรุกฝากความหวังไว้ที่ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, แบรนนาน จอห์นสัน และคริส วู้ด
สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ กลายเป็น น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่เหนือกว่าชนะได้ 3 และอาร์เซน่อล ชนะ 2 ฤดูกาลที่แล้วผลัดกันชนะบ้านใครบ้านมัน
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซน่อล (4-3-3): แอรอน แรมส์เดล, เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรี่ยล มากัลเญส, เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์, มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, เดแคลน ไรซ์, บูกาโย่ ซาก้า, ไค ฮาแวร์ตซ์ และกาเบรี่ยล มาร์ติเนลลี่
ฟอเรสต์ (3-4-2-1): แมตต์ เทิร์นเนอร์, โจ วอร์ราลล์, วิลลี่ โบลี่, สก็อตต์ แม็คเคนน่า, นีโก้ วิลเลี่ยมส์, โอเรล ม็องกาล่า, ไรอัน เยตส์, โอล่า ไอน่า, มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, แบรนนาน จอห์นสัน และคริส วู้ด
ทรรศนะ: “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ต่อยอดในการลุ้นแชมป์ด้วยการทุ่มเงินเสริมทัพได้น่าสนใจ ฤดูกาลนี้ดูตัวผู้เล่นของพวกเขาแข็งแกร่งสุด ๆ ส่วน ฟอเรสต์ ขยับไม่มาก การเสียทั้ง เคย์ลอว์ นาบาส และดีน เฮนเดอร์สัน น่าจะส่งผลถึงด่านสุดท้าย แม้ว่าจะได้ แมตต์ เทิร์นเนอร์ เข้ามาก็ตาม ดูยังจะทดแทนกันไม่ได้ วัดจากผลงานและปัจจัยต่าง ๆ อาร์เซน่อล เหนือกว่าเยอะ และน่าจะเอาชนะได้ไม่ยาก หากพวกเขาไม่เล่นแบบกดดันกันเอง
สกอร์ที่คาด: อาร์เซน่อล 3-0 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
21.00น. ไบรท์ตัน – ลูตัน ทาวน์
ทรรศนะ: เจ้าถิ่น “นกนางนวล” ไบรท์ตัน มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร เพราะเสียแนวรับอย่าง เลวาย โคลวิลล์ ที่หมดสัญญายืมตัว รวมไปถึงแดนกลางอย่าง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แต่น่าจะไม่ส่งผลต่อระบบการเล่นของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ที่เซ็ตทุกอย่างมาเป็นอย่างดี แถมเกมนี้ยังไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ดวลกับ ลูตัน ทาวน์ ที่ได้มีโอกาสเล่นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นครั้งแรก เสริมทัพมา 9 ราย แต่ก็ไม่ได้หวือหวาอะไร ดูแล้วสู้ยาก น่าจะเป็นเจ้าถิ่นอย่าง ไบรท์ตัน ที่จะเป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้
21.00น. เอฟเวอร์ตัน – ฟูแล่ม
ทรรศนะ: “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ ฌอน ไดซ์ เสริมทัพเข้ามาแค่ 2 รายด้วยการเซ็นฟรี แอชลีย์ ยัง และไปยืม อาร์เน้าท์ ดานจูม่า เกมนี้ยังไม่มี เซมุส โคลแมน, เดเล่ อัลลี่ และดไวท์ แม็คนีล ที่บาดเจ็บ แถม โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น ก็ต้องรอทดสอบความฟิต ดวลกับ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ของมาร์โก ซิลวา ได้ เคลวิน บาสเซย์ เข้ามาเสริมแนวรับ แต่ปัญหาคืออาการบาดเจ็บของ ชูเอา ปาลินญ่า ที่หัวไหล่หลุด ขณะที่กองหน้าอย่าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ก็มีปัญหากดดันทีมให้ปล่อยไปค้าแข้งที่ซาอุฯ ทำให้ ราอูล ฆิเมเนซ ที่ย้ายมาจากวูล์ฟส์จะได้ลงประเดิมทันที เมื่อดูจากความพร้อมและคุณภาพของตัวผู้เล่น ฟูแล่ม ดูจะดีกว่าด้วยซ้ำ แต่เอฟเวอร์ตันก็ได้เสียงเชียร์จากการลงเล่นในบ้าน ถือว่าสูสีโอกาสออกเสมอมีสูง
21.00น. เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด – คริสตัล พาเลซ
ทรรศนะ: “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นด้วยการเป็นรองแชมป์ ปัจจุบันคุมทัพโดย พอล เฮ็คกิ้งบ็อตท่อม เสริมแข้งใหม่เข้ามา 5 ราย แต่ก็เสียสองกำลังหลักสำคัญอย่าง อิลิมาน เอ็นดิอาย และซานเดอร์ เบิร์ก ต้องดวลกับ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ของ “ปู่รอย” รอย ฮอดจ์สัน ที่เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 76 ปี ปัญหาหลักคือการไม่มี ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ที่บาดเจ็บ ส่วนมิดฟิลด์ตัวใหม่อย่าง มาเตอุส ฟรานก้า ก็ยังไม่พร้อม อย่างไรก็ตามยังมองว่าพาเลซเหนือกว่า อันดับแรกเชื่อว่าอย่างน้อยไม่น่าแพ้ และมีโอกาสบุกชนะ
21.00น. บอร์นมัธ – เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ทรรศนะ: “เดอะ เชอร์รีส์” เอเอฟซี บอร์นมัธ เสริมทัพยกระดับทีมได้น่าสนใจ ตั้งแต่ตัวกุนซือที่ได้ อันโดนี่ อิราโอล่า เข้ามาคุมทีม ซื้อจัสติน ไคลเวิร์ต, โรแม็ง แฟฟร์, มิลอส เคอร์เคซ และอเล็กซ์ สก็อตต์ คือรายล่าสุด ใช้เงินไปเกือบ 80 ล้านปอนด์ แต่เกมนี้จะขาดตัวหลักอย่าง มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ และลอยด์ เคลลี่ ส่วน โดมินิค โซลันกี้ ก็เช็คความฟิต ดวลกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เสีย เดแคลน ไรซ์ ในแดนกลางไปให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล แต่ได้ เอ็ดสัน อัลบาเรซ เข้ามาแทน ทีมของ เดวิด มอยส์ ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ แต่ที่น่าสนใจคืออนาคตของ ลูคัส ปาเกต้า ที่มีข่าวพัวพันอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูแล้วคู่นี้ถือว่าสูสี ไม่ได้ห่างกันมากมายขนาดนั้นมีโอกาสออกเสมอ
23.30น. นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด – แอสตัน วิลล่า
ทรรศนะ: ปิดท้ายด้วยคู่ดึกสุด 23.30น. ถือว่าเป็นเกมที่น่าสนใจของสองทีมที่พยายามจะยกระดับทีมขึ้นมาอยู่แถวหน้าของลีก “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เสริมทัพได้ ซานโดร โตนาลี่, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และวาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้ เข้ามา 2 รายแรกน่าจะได้ออกสตาร์ททันที เจอกับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ภายใต้การคุมทีมของ อูไน เอเมรี่ ที่เสริมทัพแบบจัดหนัก เซ็นฟรี ยูรี ตีเลมานส์ ซื้อ เปา ตอร์เรส และมุสซ่า ดิยาบี้ เข้ามา แต่ข่าวร้ายก่อนเปิดซีซั่นคือ เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย โชคร้ายเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าในตอนซ้อม ทำให้ต้องพักยาว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่สูสี เพราะทั้งสองต่างก็มีทีเด็ดในเกมรุก แต่ด้วยมาตรฐานของ นิวคาสเซิ่ล ที่ได้เล่นในบ้านบวกกับทีมที่ลงตัวกว่า น่าจะเบียดเข้าวินได้
ฟันธงลงสกอร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2023
อาร์เซน่อล 3-0 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ไบรท์ตัน 2-0 ลูตัน ทาวน์
เอฟเวอร์ตัน 1-1 ฟูแล่ม
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-2 คริสตัล พาเลซ
บอร์นมัธ 2-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-2 แอสตัน วิลล่า
♦️ดูผลวิเคราะห์วันนี้ได้ที่นี่ >>> https://www.stat24h.com/
