การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำค่ำคืนวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2023 มีลงฟาดแข้งแค่ 3 คู่ เป็นเกมหนีตายเล่นลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรป
18.30น. คริสตัล พาเลซ – เวสต์แฮม
เจ้าบ้าน “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน หยุดสถิติไม่แพใครติดต่อกันเอาไว้ที่ 4 เกม หลังพ่ายให้กับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน มาในเกมล่าสุด สถานการณ์ของพวกเขาถือว่าปลอดภัยมี 37 คะแนน นำห่างโซนตกชั้น 8 แต้ม เกมนี้ต้องรอทดสอบความฟิต วีลฟรีด ซาฮา และโยอาคิม แอนเดอร์เซ่น ที่เหลือไม่มีอะไรให้กังวล วาง เอเบเรซี่ เอเซ่, ไมเคิ่ล โอลิเซ่ และจอร์แดน อายิว เป็นตัวความหวังในเกมรุก
ต้องดวลกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม เพิ่งพ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล คารัง 1-2 หลังไม่แพ้ใครในทุกรายการมา 5 นัดติด รั้งอันดับ 14 ของตารางมี 5 คะแนน ทีมของ เดวิด มอยส์ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพแกนหลัดอยู่กันครบ เกมรุกนำโดย จาร์ร็อด โบเว่น, ลูคัส ปาเกต้า, ซาอิด เบนราห์มา และมิคาอิล อันโตนิโอ
ทรรศนะ: ทั้งสองทีมต่างก็สะดุดมาในเกมล่าสุด สถานการณ์ของพวกเขายังไม่ปลอดภัย แม้จะนำโซนตกชั้นอยู่หลายคะแนน การแพ้ชนะ 1 เกมนั้นส่งผลต่อการอยู่รอดอย่างแน่นอน ถือเป็นเกมที่สูสี ถ้าวัดจากเกมรุก พาเลซ อาจจะมีความวูบวามของ เอเซ่ และโอลิเซ่น แต่ เวสต์แฮม ดูจะมีความอันตรายมากกว่า แถมอาวุธบนม้านั่งสำรองก็น่าสนใจ มีแดนนี่ อิงค์ส ที่พร้อมลงมาเปลี่ยนเกม เชื่อว่าทีมเยือนน่าจะบุกมาเก็บคะแนนออกไปได้
21.00น. เบรนท์ฟอร์ด – น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
เจ้าถิ่น “ผี้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด อยู่ดี ๆ ก็คึกบุกไปเอาชนะ “สิงห์บลูส์” เชลซี ถึงเดอะ บริดจ์ มา 2-0 ทำให้ทีมของ โธมัส แฟรงค์ รั้งอันดับ 9 ของตารางมี 47 คะแนน ยังมีโอกาสลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรป เกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน พอนตุส ยานส์สัน, คีน ลูอิส-พ็อตเตอร์ และคริสเตียน นอร์การ์ด ที่บาดเจ็บ ที่เหลืออยู่ครบ มี ไบรอัน เอ็มเบอูโม่, อีวาน โตนีย์ และเควิน ชาเดอ ประสานงานในเกมรุก
เจอกับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ของกุนซือหน้าง่วง สตีฟ คูเปอร์ ที่เพิ่งปลดล็อกเอาชนะในเกมได้สักที หลังไร้ชัยมา 11 เกมติด ด้วยการถล่ม “นกนางนวล” ไบรท์ตัน 3-1 เกมนี้ยังเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บเพียบ มุสซ่า เนียกาเต้ และนีโก้ วิลเลี่ยมส์ คือสองแข้งที่เพิ่งเดี้ยงมา หมดสิทธิ์ลงเล่นในเกมนี้ แต่ข่าวดีคือการได้ แซร์ก โอริเย่ร์ กลับมาพร้อมประจำการพอดี นอกนั้นไม่น่ามีปัญหาอะไร
ทรรศนะ: ทั้งสองทีมต่างก็ปลดล็อกคว้าชัยมาในเกมล่าสุด เบรนท์ฟอร์ด ไม่ชนะใครมา 6 เกม แต่เพิ่งบุกไปอัด เชลซี มา เช่นเดียวกับ ฟอเรสต์ 3 คะแนนนัดที่แล้วทำให้พวกเขาถีบตัวกลับขึ้นมาจากโซนแดง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ฟอเรสต์ มีเกมเยือนที่แย่ที่สุดในบรรดา 20 ทีมในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ 16 เกม ชนะแค่ 1 เสมอ 3 แพ้ถึง 12 การมาเยือน เบรนท์ฟอร์ด ที่เพิ่งฟื้นเรียกความมั่นใจกลับมา และมีเกมในบ้านที่แข่งแกร่ง มีเพียงแค่ 2 ทีมที่บุกมาชนะได้ที่นี่ คืออาร์เซน่อล และนิวคาสเซิ่ล ดูเหมือนจะเป็นงานหนักของฟอเรสต์ โอกาสกลับบ้านมือเปล่าค่อนข้างสูง
21.00น. ไบรท์ตัน – วูล์ฟแฮมป์ตัน
“นกนางนวล” ไบรท์ตัน อกหักจากรอบตัดเชือกเอฟเอ คัพ นัดล่าสุดพ่ายให้กับทีมท้ายตารางอย่าง น็อตติ้ง แฮม ฟอเรสต์ ทำให้ทีมของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ หล่นลงมารั้งอันดับ 8 ของตารางมีอยู่ 49 คะแนน ยังมีลุ้นโควตาฟุตบอลยุโรป แต่เกมนี้ยังไม่มี อดัม ลัลลาน่า และอีแวน เฟอร์กูสัน ที่บาดเจ็บ นอกนั้นอยู่ครบ ฟาคุนโด้ บัวนาน็อตเต้ ที่ยิงประตูในนัดที่แล้วน่าจะได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ประสานงานกับ ซอลลี่ มาร์ช, คาโอรู มิโตมะ และแดนนี่ เวลเบ็ค
ฟากทีมเยือน “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ของ ฆูเลน โลเปเตกี มั่นใจขึ้นเยอะจากการเอาชนะทีมแกร่งอย่าง คริสตัล พาเลซ ทำให้สถานการณ์ของพวกเขาดีขึ้น มี 37 คะแนน ว่าด้วยมาตรฐานของอีกสัก 5 คะแนนก็น่าจะรอดตกชั้น ทีมโดยรวมถือว่าไม่มีปัญหาอะไรแกนหนักอยู่ครบ นำโดยกัปตันทีมอย่าง รูเบน เนเวส, มาริโอ เลมิน่า, อดาม่า ตราโอเร่, มาเตอุส นูเนส และมาเตอุส คุนญ่า
ทรรศนะ: ไบรท์ตัน ดูจะสูญเสียความมั่นใจหลังตกรอบเอฟเอ คัพ ผู้จัดการทีมอย่าง เด แซร์บี้ ต้องรีบดึงสติลูกทีมกลับมาให้ไว เพราะยังมีเป้าหมายสำคัญคือการไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน กำลังมั่นใจเลยทีเดียว 5 เกมหลังชนะ 9 เสมอ 1 แพ้ 1 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีความสูสี แต่ดูจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไบรท์ตัน ยังมีความน่ากลัวมากกว่า เชื่อว่าพวกเขาน่าจะกลับสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นด้วยการเอาชนะในเกมนี้
ฟันธงลงสกอร์
คริสตัล พาเลซ 1-1 เวสต์แฮม
เบรนท์ฟอร์ด 3-1 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ไบรท์ตัน 2-1 วูล์ฟแฮมป์ตัน
