7 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Story Style

เกมระดับทวีป…จับตาคนระดับโลก!!!

เหลืออีก 48 ชั่วโมงเท่านั้น คบเพลิงประจำการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ จะถูกจุุดขึ้นที่หางโจว ดินแดนทะเลสาบซีหู

มาว่ากันถึงนักกีฬาที่ถูกจับตามองจาก “โอลิมปิกสากล” เขียนวาดเอาไว้ 9 รายที่มาแข่งขันในครานี้

หนึ่งในนั้นมี กุลวุฒิ วิทิตศานต์

“วิว” เพิ่งจะคว้าแชมป์โลกมมาครองได้สำเร็จ ที่รอยัล อารีน่า ในกรุงโคเปเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

วิว กุลวุฒิ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2544 ปัจจุบันอายุ 22 ปี เริ่มเล่นแบดมินตัน เมื่ออายุ 7 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ และ เป็นการคว้าเหรียญสองครั้งติดต่อกันต่อจากปี 2022 ที่ได้เหรียญเงิน

นอกจากนี้เป็นนักแบดมินตันชาวไทยคนที่ 4 จาก 3 ประเภท ที่คว้าแชมป์โลกต่อจาก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ประเภทหญิงเดี่ยว เมื่อปี 2013 และ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ประเภทคู่ผสม ในปี 2021

น่าชื่นใจกันตรงที่ นักกีฬาของไทย อยู่ใน “ระดับ” และ “ระนาบ” เดียวกันกับยอดนักกีฬาในเอเชีย

9 คนที่ถูกจับตามองนอกจาก วิว มีดังนี้

1.ฮวาง ซุน-วู นักว่ายน้ำเกาหลีใต้ วัย 20 ปี เป็นเจ้าของสถิติชาวเอเชียในเวลา 47.22 วินาทีฟรีสไตล์ 100 เมตร และอันดับ 3 จากชิงแชมป์โลกปีนี้

2.ริคาโกะ อิเคเอะ เงือกสาวชาวญี่ปุ่นวัย 23 ปี เธอคือนักว่ายน้ำคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ 6 เหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2018 และถูกตรวจพบเป็นลูคีเมียในปีต่อมา วันนี้้เธอยังสู้!!

3.คูซากิ ฮินาโนะ นักกีฬาอายุน้อยที่สุดที่ถูกโฟกัส ด้วยวัยเพียง 15 ปี กับการเล่นสเก็ตบอร์ด เป็นความหวังใหม่ของคนญี่ปุ่น

4.ปานเดเลล่า รินอง พัมก์ นักกระโดดน้ำวัย 30 ปีราชินีอีเวนต์นี้แห่งมาเลเซีย ที่เธอกำลังฟอร์มตกถึงขั้นไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายชิงแชมป์โลกเป็นหนแรก ทำให้คำถามเกิดขึ้นกับเธอ

5.ซุน หยิงฉา นักปิงปองมือ 1 โลกวัย 22 ปีจากจีน เธอได้รับรางวัลเหรียญทองโอลิมปิกและกวาดแชมป์โลกมาหมดประเภทเดี่ยว, คู่, คู่ผสม และทีม; ซิงเกิลและทีม มงกุฎฟุตบอลโลก; และเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ประเภทคู่ผสมและทีม แต่ยังไม่เคยได้ประเภทเดี่ยว

6.จาง ป๋อเหิง ยิมนาสติกสากล 23 ปีของเจ้าภาพ เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัยที่ปฎิเสธการไปชิงแชมป์โลกที่อันเวิร์ป เบลเยี่ยม เนื่องจากชนกับเอเชี่ยนเกมส์ น่าสนใจคือ ญี่ปุ่น ขนทัพใหญ่ไปเบลเยี่ยมด้วย

ขณะที่ 7 กับ 8 มาจากกรีฑา และเป็นระดับเหรียญทองโอลิมปิกทั้งคู่

นีราจ โชปรา จากอินเดีย ที่เป็นยอดแชมป์แห่งพุ่งแหลน เมื่อครองโลกไปครบทุกรายการทั้งการเป็นแชมป์โลก 2 ปีซ้อน 2022 กับ 2023 และเหนือสิ่งอื่นใดคือ เหรียญทองโอลิมปิกที่ญี่ปุ่น ปี 2021

โชปรา จะมาป้องกันแชมป์ ที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดของทวีปในเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ ที่อินโดนีเซีย และเพื่อลบความเจ็บปวดหลังจากเสียแชมป์ไดมอนด์ ลีก ให้กับ ยาคุบ วาดเลจช์ จอมเก๋าจากเช็ก เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ยูจีน สหรัฐอเมริกา

นับเป็นการกลับมาสู้ระดับเอเชียอีกครั้งของเขาด้วย เพราะในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทยเป็นเจ้าภาพนั้น โชปรา แข่งไดมอนด์ลีก ที่โปแลนด์

อีกหนึ่งคนคือ มูตาซ เอสซ่า บาซิม นักกระโดดสูงชาวกาตาร์ เจ้าของเหรียญทองร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2020(แข่งปี 2021) จากกาตาร์ เข้าร่วมศึกนี้ พร้อมกับตำนานที่โลกไม่ลืม

เขากับ จานมาร์โก้ ทัมเบรี่ จากอิตาลี ขอรับเหรียญทองร่วม หลังจากทำสถิติเท่ากัน และไม่ขอแข่งต่อเพื่อตัดสินผู้ชนะ

เคาะสถิติดูเห็นว่า กระโดดกันได้เท่ากัน 2.37 เมตร บาร์ชิมกับ ทัมเบรี่ รวมถึงนักกีฬาจากเบลารุส อีกคน แต่พอโดดครั้งที่ 3ความสูง 2.39 เมตร ไม่มีใครโดดผ่านเลย

นักกีฬาจากเบลารุส ได้เหรียญทองแดงไปก่อน เพราะใช้สิทธิ์โดดมากกว่าคนอื่น ทำให้ต้องตัดสินในรูปแบบ Jump-Off หรือจะรับทองร่วมกัน มีกติการระบุไว้ชัดเจน

กรรมการมาแจ้งว่าให้เตรียมตัวแข่งต่อ ทำให้ บาร์ชิม ถามกลับว่า เรารับแชมป์ร่วมกันเลยได้หรือไม่

ผู้ตัดสินพยักหน้า เพราะกฎก็ชัดเจนอยู่แล้ว!!!!

ทัมเบรี่ เลยวิ่งมากอดกับ บาร์ชิม ทำให้ทั้งสองครองเหรียญทองร่วมกันเป็นคู่แรกของโอลิมปิกครั้งนี้และเป็นภาพประทับใจอย่างที่สุด

โชคดีมาก ๆ …..วันนั้นผมฝ่ากระแสไวรัสร้าย แล้วไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ในสนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงโตเกียว ได้เห็นภาพนั้นกับตาตัวเอง…….

หวังว่าภาพคลาสสิกเหล่านี้ จะผ่านสายตาคนรักกีฬาอย่างพวกเราอีกครั้งในเอเชี่ยนเกมส์ครานี้

บีแหลมสิงห์

📍โฆษณาติดต่อ inbox หรือไลน์ @BeeLamsing 📗🙏

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *