ผมอยู่ในรุ่นกระชากวิญญาณแฟนบอลแบบนี้มาหลายครั้ง
แต่อย่างที่บอกว่า มันเป็นเรื่องของ “แต่ละคน” ที่ความรู้สึกจะแตกต่างกันออกไป ไม่เท่ากัน เจ็บแค่ไหนไม่ต้องเอามาเทียบ
ผมแบ่ง 4 เรื่องคือ ดัลกลิช ลาออกทันที, โอเว่น ย้ายทีมสองดอก, เจอร์ราร์ด ประกาศอำลา และคล็อปป์ ประกาศอำลา
ตัดปัญหาคนจะถามว่า “แล้ว ตอร์เรส ล่ะ”
อ๋อ…1.บรรทัดที่ 2 และ 2.เค้าไม่เหมือนกับ 4 คน 4 เคสนี้
นั่นเพราะว่า ดัลกลิช, โอเว่น, เจอร์ราร์ด และคล็อปป์ ทั้งหมดถูกยกให้เป็นในสิ่งที่หลายคนไม่ได้เป็น และเป็นไม่ได้ และไม่ถึงกับเป็น
นั่นคือ “เป็นสัญลักษณ์”ของสโมสร
๐ ดัลกลิช ประกาศลาออก 22 กุมภาพันธ์ 1991
หลังจากทนความกดดันไม่ไหว ในการทำงานคุมทีม, งานศพและเยียวยาแฟนบอลจากเหตุฮิลล์สโบโร่
ผมตอนนั้นในวัย 14 ปี อยู่ ม.3 นนทรีวิทยา นั่งเขี่ยรูปลอกอยู่กับเพื่อน ๆ รู้ข่าวจากน้า เดินมาบอกว่า นสพ.ลงข่าว ดัลกลิช ไปแล้ว…
๐ โอเว่น สองกระทอก คือ 13 สิงหาคม 2004 ไปมาดริด และ 3 กรกฏาคม 2009 ไป แมนฯยู
หนแรก ผมเดินทางไปอังกฤษครั้งแรก อ่านหนังสือพิมพ์ที่นั่นหลังจากลงเครื่อง เหตุคือการย้ายเพราะต้องการประสบความสำเร็จกับ “กาลาติกอส” เรอัล มาดริด ถือว่า เข้าใจได้เพราะตอนนั้น ลิเวอร์พูล สู่ยุคกระทิงแดงของ ราฟา เบนิเตซ แต่ผลลัพธ์ก็นะ…..
หนสอง คือ ตื่นเช้าจะเข้าเวรทำงานตกใจมาก หลังจาก เว่น แบะท่าจะกลับหงส์ แต่ “อ้างว่า” ไร้การติดต่อจาก ราฟา แล้วก็ไปเซ็นกับ แมนฯยู แบบไม่เข้าใจโลก แต่ผลลัพธ์ก็นะ…..
๐ เจอร์ราร์ด 1 มกราคม 2015
ออกจากโรงหนังมา ข้อความมากมาย และนับสิบมิสส์ คอล ช็อกอย่างที่สุด
หลายเรื่องที่ถูกตีความออกมา สำหรับหลายคนยังติดใจกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จนถึงทุกวันนี้
๐ คล็อปป์ 2 มกราคม 2024
ผมเชื่อว่า ทุกคนคงจะได้อ่านเรื่องราวการอำลา และคิดไปต่าง ๆ นาๆมากมาย แต่เอาเถอะ จนแล้วจนรอด เราไม่สามารถจะบอกได้ว่า แท้ที่จริงเหตุผลมันคืออะไรกันแน่
ทำได้แค่การคาดเดา และอยู่ที่ว่า ใครจะทำใจได้มากกว่ากัน อ่อนนอกแข็งใน หรืออ่อนในแข็งนอก ความเจ็บปวด และการแสดงออกของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ที่แน่ ๆ ก็คือ ลิเวอร์พูล ถือว่าเสียหายสุด ๆ หลังหมดยุคของสตีเว่น เจอร์ราร์ด
นั่นก็คือการสูญเสีย สัญลักษณ์ของสโมสร
แต่ละเคสที่เจอมานั้นไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย ดัลกลิช ช็อกมากเพราะอยู่ ๆ ก็ไปเลย บวกกับการข่าวในยุคนั้นไม่ได้ชัดเจนแบบแทบจะนาทีต่อนาทีเหมือนไฟลามทุ่งยุคนี้
โอเว่น ก็ไปทันที
เจอร์ราร์ด ก็รู้ว่าจะเลิกเล่น แต่ไม่คิดว่าจะประกาศอำลาก่อนปิดซีซั่น 5 เดือน
คล็อปป์ ก็เช่นกันครับ
รู้ว่าจะไป แต่การเซ็นสัญญาไว้ถึงปี 2026 ก็ไม่เคยคิดว่าจะประกาศ 5 เดือนก่อนปิดซีซั่น 2024
ไม่เข้าใจ แม้จะเป็นคนที่เคารพการตัดสินใจของผู้อื่น
จะ 1 วันนับจากที่ คล็อปป์ ประกาศ ผมก็ยังไม่เข้าใจ แม้จะแง้ม ๆ มาว่า “หมดพลัง” อาจจะเพราะ “ด้วยวัย”
ถ้าจะบอกว่า “หมดไฟ” อันนี้คงไม่น่าจะเป็นไปได้
เวลานี้ ยังไม่สามาารถไปคิดเรื่อง “เอาใครมาแทน” อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แสล๋นแมนออดส์ ยกให้ ชาบี อลอนโซ่ เก่งแบบช่วยกันดันตูดเป็นเต็ง 1 ตามมาด้วย โรแบร์โต้ เด แชร์บี้ เป็นเต็ง 2
ลองคิดกันดี ๆ ชั่วโมงนี้ “โลกใบนี้” กำลังขาด “ยอดโค้ช” ที่กำลังว่างงานอย่างแท้จริง
บางคนบอกว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ไง หรือ โค้ชไทยบ้างอะไรบ้าง….ผมคิดว่า แนวคิดมาจากง่ามทีนไม่ใช่ง่ามใจ
ไม่รู้จักเวลาและไม่รู้เทรดิชั่น
สำหรับ อลอนโซ่ อยู่ในสายตาของผมมาตลอด เพราะการทำงานบรรยายบุนเดสลีกา ที่ผมทำงานแล้ว “ไม่ได้ทำทิ้ง” เน้นย้ำนำเรียนว่า นี่คือ ซีซั่นแรกที่เขาทำงานแบบเต็ม ๆ และเพิ่งผ่านมาครึ่งทางนิด ๆ
DNA ได้อยู่ แต่เก้าอี้ที่นี่มันใหญ่ มันร้อน และมันแบกรับโลกจากอะไร ผมเชื่อนะ พวกคุณทุกคนย่อมรู้ดีครับ
เด แชร์บี้ ก็เหมือนกัน ฝีมือดีแต่จะถึงหรือไม่ที่แอนฟิลด์
ตรง ๆ เลยก็คือ คิดอะไรไม่ออก และที่สำคัญ ยังไม่ได้คิดเลย ขึ้นอยู่กับบุญพาวาสนาส่ง ส่วนใครจะเป็นคนที่มาแทนนั้น ยังไม่อยากจะคิด
คิดให้ คล็อปป์ เปลี่ยนใจ บางทีอาจจะง่ายซะกว่า……….
เหมือนอยากให้คนรักกลับมาอยู่กับเราอีกครั้ง แม้เพิ่งเซ็นใบหย่าไปเมื่อวาน
