6 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Story

🇸🇦เช็คข้อมูล18สโมสรโคตรรวยแห่งวงการลูกหนัง‘ซาอุดี้โปรลีก’

สองแข้งจากลิเวอร์พูล มาอยู่ที่นี่เรียบร้อยทั้ง ฟีร์มิโน่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

กลายเป็นลีกที่สร้างความตื่นเต้น และสร้างความตกตะลึงให้กับแฟนฟุตบอลทั่วโลก ในซัมเมอร์นี้

ลีกฟุตบอลอาชีพของประเทศซาอุดีอาระเบีย หรือ Saudi Professional League สะเทือนวงการด้วยการดึงตัวนักเตะมากหน้าหลายตา เข้าสู่วงจรลูกหนังของพวกเขาได้อย่างน่าสนใจ

สิ่งสำคัญก็คือ นักบอลส่วนใหญ่มาจากพรีเมียร์ลีก และเป็นนักบอลที่สามารถ “ไปต่อได้” มากกว่า “สังขารไม่อำนวย”

สกู๊ปพิเศษวันอาทิตย์แนวหน้า อ่านกันแบบสบายอุรากับความเป็นมาของ 18 ทีมบนลีกของพวกเขาที่เป็นระดับอาชีพมายาวนานถึง 47 ปีด้วยกัน

l อับฮา

อับฮา คือสโมสรที่มีชื่อเดียวกับเมือง ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,270 เมตร ถือเป็นทีมที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ยังเล่นอยู่ในลีกระดับ 3 ก่อนจะเลื่อนชั้นมาอยู่บนลีกสูงสุด แม้ว่าจะไม่เคยประสบความสำเร็จคว้าถ้วยรางวัลต่างๆ

ทีมนี้มี เชสลาฟ มิคนีวิชซ์ อดีตกุนซือทีมชาติโปแลนด์ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022 คุมทัพอยู่ สตาร์ดังของพวกเขาคือ เฟลิเป้ไคเซโด้ หัวหอกชาวเอกวาดอร์ที่เคยค้าแข้งอยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้

l อัล-อาห์ลี

ถือว่าเป็นหนึ่งในสโมสรใหญ่ของลีกซาอุดีอาระเบีย และเป็นหนึ่งใน 4 ของทีมที่ถูก Saudi Arabia’s Public Investment Fund หรือ PIF ที่รู้จักในชื่อของ กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย เข้ามาบริหารกิจการ ซึ่งกลุ่มทุนนี้ก็คือกลุ่มเดียวกับเจ้าของทีมของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก
อังกฤษ ที่กำลังบินสูงในเวลานี้

ซัมเมอร์ 2023 พวกเขาเสริมทัพแข้งใหม่ที่น่าสนใจคือ 3 แข้งระดับแชมป์ยูซีแอล ประกอบด้วย เอดูอาร์ เมนดี้ นายประตูจากเชลซี, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ จากลิเวอร์พูล และล่าสุดคือ ริยาด มาห์เรซจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สมทบกับความเก่าที่มีอยู่อย่าง เอซยานอาลีออสกี้ อดีตผู้เล่นของลีดส์ ยูไนเต็ด, โมดู บาร์โรว์ ที่เคยอยู่กับ สวอนซี ซิตี้ รวมไปถึงบาสตอสที่เคยอยู่กับลาซิโอ

l อัล-อิตติฟาค

หนึ่งในทีมที่มีชื่อเสียงของวงการฟุตบอลซาอุฯ แต่ทว่าพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จมานานแล้ว ครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปในปี 1980 แต่ดูเหมือนว่าปีนี้จะคึกคักมากยิ่งขึ้น เมื่อสามารถดึงสตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เข้าไปรับหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่

ส่วนสตาร์ดังในทีมที่เคยโลดแล่นในยุโรป คือ โรบิน ไควสัน กองหน้าทีมชาติสวีเดน, อามีน ยูเนส อดีตดาวรุ่งทีมชาติเยอรมนี รวมไปถึง นาอิม สลิตี้ ตัวรุกทีมชาติตูนิเซีย ที่สำคัญก็คือเพิ่งคว้าตัวจอร์แดน เฮนเดอร์สัน จากลิเวอร์พูลไปร่วมทีม

l อัล-ฟาเตห์

สโมสรแห่งนี้ก่อตั้งมาเมื่อปี 1958 หรือ 65 ปีที่แล้ว เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ 1 สมัย ในฤดูกาล 2012-13 ปัจจุบันมีสลาเวน บิลิช อดีตกองหลังทีมชาติโครเอเชีย และผู้จัดการทีมของ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด รับบทบาททำหน้าที่กุนซือคุมทีมผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดคือ คริสเตียน เตโญ่ อดีตเด็กปั้นของ “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลน่า

l อัล-เฟย์ฮา

อัล-เฟย์ฮา คว้าแชมป์ลีกซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2017 พวกเขามี วุค ราโซวิช อดีตกองหลังของทีมชาติยูโกสลาเวีย เป็นผู้จัดการทีมสนามเหย้าของพวกเขาจุผู้ชมได้แค่ 7,000 ที่นั่งเท่านั้น ถือว่าน้อยที่สุดในลีกแล้ว

แกนหลักจากลีกยุโรป นำโดย วลาดิเมียร์ สตอยโควิช อดีตนายด่านทีมชาติเซอร์เบีย และอเล็คซานดาร์ ตราย์คอฟสกี้ หัวหอกตัวแสบทีมชาตินอร์ธ มาซิโดเนีย ที่ยิงประตูทำให้ทีมชาติอิตาลีอดไปเล่นฟุตบอลโลก 2022

l อัล-ฮาเซ็ม

นี่คือสโมสรที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว พวกเขาไม่เคยประสบความสำเร็จใดๆ ในรายการสำคัญ ชื่อชั้นดูจะเป็นรองทีมอื่นๆ มี เฟลิเป้ กูเวย่า ชาวโปรตุกีสเป็นกุนซือ นักเตะที่โดดเด่นพอจะเป็นตัวชูโรงได้คือ อายเมน ดาห์เมน นายทวารชาวตูนิเซีย

l อัล-ฮิลาล

หนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย ถือว่าเป็นสโมสรยักษ์ใหญ่มีการพัฒนาอยู่ตลอด พวกเขาคว้าแชมป์เอเชียได้ 4 ครั้ง และแชมป์ลีกได้ถึง 18 ครั้ง

ปัจจุบันมี ฮอร์เก้ เฆซุส อดีตกุนซือเบนฟิก้าเป็นผู้จัดการทีม เจ้าของทีมคือ PIF เสริมทัพแบบจัดหนักในช่วงซัมเมอร์นี้ได้ทั้ง รูเบน เนเวส, คาลิดู คูลิบาลี่, เซอร์เกย์ มิลินโควิช-ซาวิช บวกกับตัวเดิมที่มีอยู่อย่าง มุสซ่า มาเรก้า, มาเธอุส เปเรยร่า และอังเดร คาร์ริลโญ่

l อัล-อิตติฮัต

อีกหนึ่งทีมที่อยู่ในเครือข่ายของ PIF เป็นคู่แข่งในการแย่งแชมป์ลีกของ อัล-ฮิลาล ในช่วงหลังจะเป็นการขับเคี่ยวของสองทีมนี้ เรียกได้ว่าเจอกันที่ไรมันคือเกม “เอล กลาซิโก้” ของซาอุฯเลยทีเดียว

พวกเขาเป็นทีมแชมป์เก่า โดยมี นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เป็นกุนซือ และยังเป็นสโมสที่เก่าแก่ที่สุดในซาอุดีอาระเบียด้วย ซัมเมอร์นี้เสริมทัพได้น่าสนใจได้ คาริม เบนเซม่า เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์คนล่าสุดเข้ามา เช่นเดียวกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และยังมี โชต้าแนวรุกจากเซลติก บวกกับตัวเดิมอย่าง อาห์เม็ด เฮกาซี่

l อัล-นาสเซอร์

แชมป์ลีก 9 สมัย สร้างความฮือฮาด้วยการสอย คริสเตียอาโน่โรนัลโด้ สตาร์ดังไปร่วมทีมเมื่อช่วงเดือนมกราคม

ซัมเมอร์นี้มีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือ รูดี้ การ์เซีย กระเด็นตกเก้าอี้หลังพลาดแชมป์ลีกให้กับ อัล-อิตติฮัต แต่งตั้งให้ หลุยส์ คาสโตร เพื่อนร่วมชาติของ “พี่โด้” เข้ามาคุมทีมแทน

ตัวที่ซื้อเข้ามามี มาร์เซโล่ โบรโซวิช กับ อเล็กซ์ เตลลีส บวกของเดิมอย่าง ดาวิด ออสปิน่า นายด่านจากโคลอมเบีย, กอนซาโล่ มาร์ติเนซ, แอนเดอร์ซอน ทาลิสก้า และกิสเลน โคนาน

ที่สำคัญ ซาดิโอ มาเน่ กำลังจะมาอีกราย!!!

l อัล-อ็อคดู๊ด

สโมสรเล็กๆ ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน เมื่อ 5 ปีที่แล้วพวกเขายังอยู่ในระดับดิวิชั่น 3 โดยมี ฮอร์เก้ เมนดอนก้า เป็นผู้จัดการทีม ตัวผู้เล่นไม่มีความโดดเด่นเหมือนกับทีมอื่น ที่พอจะมีชื่อในยุโรปคือ เปาโล วิตอร์ นายทวารชาวบราซิลที่เคยค้าแข้งในโปรตุเกส

l อัล-รีด

อีกหนึ่งทีมเล็กๆ ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จเช่นกัน ที่สำคัญตอนนี้พวกเขาย

งไม่มีผู้จัดการทีม ปาโบล ซานโตส หัวหอกชาวบราซิลคือตัวชูโรงของทีม เพราะเคยค้าแข้งในโปรตุเกส, รัสเซีย และตุรกี

l อัล-ริยาดห์

ทีมจากเมืองหลวง แต่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่คิด ผลงานที่ดีที่สุดคือการคว้ารองแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาล 1993-94 และได้แชมป์บอลถ้วย คราวน์ ปรินซ์ คัพ ในปีเดียวกัน พวกเขาเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาลที่แล้ว และเพิ่งแต่งตั้งให้ ยานนิค เฟอร์เรร่า ชาวเบลเยียมเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ตัวชูโรงคือ นิโกล่า สตอยลิโควิชหัวหอกชาวเซอร์เบียที่เคยเล่นใน โปรตุเกส, สเปน, เซอร์เบีย, ตุรกี และโปแลนด์

l อัล-ชาบับ

อัล-ชาบับ แชมป์ลีกซาอุดีอาระเบีย 6 สมัย ตอนนี้กำลังมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่ คุณภาพผู้เล่นถือว่าใช้ได้มี เอแวร์ บาเนก้า จอมทัพชาวอาร์เจนไตน์ที่เคยค้าแข้งให้กับ บาเลนเซีย เป็นตัวบัญชาการ แนวรับมี กุสตาโว่ คูเอญ่าร์ ที่เคยติดทีมชาติโคลอมเบีย และผู้รักษาประตู คิม ซึง-กิว ที่ติดทีมชาติเกาหลีใต้ไปลุยบอลโลกถึง 3 สมัย

l อัล-ทาวอน

อัล-ทาวอน คว้าแชมป์บอลถ้วยคิงส์ คัพ เมื่อปี 2019 มี เปริเซลส ชามุสก้า เป็นผู้จัดการทีม ฤดูกาลที่แล้วถือว่าผลงานดีจบอันดับ 5 ของลีก ตัวผู้เล่นที่โดดเด่นคือ อัลบาโร่ เมดราน จอมทัพชาวสเปน อดีตเด็กปั้นของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด

l อัล-ไท

อีกหนึ่งทีมที่ไม่เคยประสบความสำเร็จ แม้ว่าสโมสรแห่งนี้จะก่อตั้งมา 61 ปีแล้ว ฤดูกาลที่แล้วจบอันดับ 9 ของลีก ล่าสุด เครซิเมียร์ เรซิซ ชาวโครเอเชีย เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแกนหลักคนสำคัญคือ อัลฟ่า เซเมโด้ มิดฟิลด์ชาวกินี-บิสเซา ที่เคยไปค้าแข้งในอังกฤษกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และเรดดิ้ง ในช่วงเวลาสั้นๆ

l อัล-เวห์ด้า

สโมสรแห่งนี้ก่อครั้งได้ 88 ปีแล้ว แต่ความสำเร็จครั้งสุดท้ายของพวกเขาคือการคว้าแชมป์บอลถ้วยเมื่อปี 1966 ปัจจุบันมี จอร์จอสโดนิส อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติกรีซ รับบทบาทเป็นผู้จัดการทีม เป็นการย้ายมาจาก อัล-ฟาเตห์ เพื่อมาแทน โฮเซ่ หลุยส์ เซียร่า ตัวชูโรงคือ ออสการ์ ดูอาร์เต้ กองหลังทีมชาติคอสตาริกา, เฟย์คาล ฟาจร์ และมูนีร์ โมฮามาดี้ ต่างก็เคยลงเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

l ดามัค

หนึ่งในทีมที่โดน คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซัดแฮททริกใส่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทีมนี้มี คอสมิน คอนทรา อดีตแบ๊กขวาทีมชาติโรมาเนีย ที่ผ่านการลงเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เอซี มิลานและแอต มาดริด เป็นกุนซืออยู่ ผู้เล่นที่โดดเด่นของพวกเขาคือ อดัม มาเฮอร์ อดีตดาวโรจน์จากลีกดัทช์ รวมไปถึง ดามากอยอันโตลิช กองหลังที่เคยติดทีมชาติโครเอเชียมา 6 นัด

l คาลิจ

คาลิจ รอดพ้นจากการตกชั้นได้แบบหวุดหวิดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว คุมทัพโดย เปโดร เอ็มานูเอล กุนซือชาวโปรตุเกส ผู้เล่นที่เคยค้าแข้งในยุโรปคือ ลิซานโดร โลเปซ ที่เคยเล่นให้กับ เบนฟิก้า,อินเตอร์ มิลาน และเจนัว แถมติดทีมชาติอาร์เจนตินาชุดใหญ่มา 4 นัด

บี แหลมสิงห์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *