ศึกชิงเจ้าความเร็วขวัญใจมหาชน “โมโตจีพี” ประจำซีซั่นใหม่ พร้อมกับความหวังใหม่ของหลายต่อหลายคน

โดยเฉพาะแฟนกีฬาชาวไทยที่ “แอบหวัง” หลังจากพลังการบิดของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา

นักบิดวัย 24 ปี มีแสงสว่างอยู่ตรงหน้า
โอกาสประสบความสำเร็จ “ยิ่งกว่า” ซีซั่นก่อนนั้นอยู่แค่เอื้อมมือ

คุณอารักษ์ พรประภา บอสฮอนด้า เรียกว่า ขับขนาดนี้เรียก ก้อง หรือ สมเกียรติ เฉย ๆ ไม่ได้

“ต้องเรียกว่า คุณสมเกียรติ แล้ว!!!!!”

….ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่เรื่องของ “คุณสมเกียรติ” มาตามกันที่รุ่นใหญ่ขวัญใจมหาชนอย่าง โมโตจีพี

ปีที่ผ่านมาแชมป์ตกเป็นของ “เป๊กโก้” ฟรานเชสโก บันยาญา จอมระห่ำชาวอิตาเลียนของทีมดูคาติ ที่ผงาดคว้าแชมป์โลกไปครอง

ตามมาด้วย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร นักบิดฝรั่งเศสจากมอนสเตอร์ เอเนอร์จี ยามาฮ่า และเอเนีย บาสเตียนินี ชาวอิตาเลียนจากเกรสซินี เรซซิ่ง

น่าติดตามก็คือ มาร์ค มาร์เกซ เจ้าของแชมป์โลก 6 สมัย จากแดนกระทิงดุ ของ เรปโซล ฮอนด้า ดูเหมือนว่าจะขอท้าทายบัลลังก์ครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่เขาโชคร้ายบาดเจ็บมาโดยตลอด หลังจากอาการเริ่มต้นเกิดขึ้นในปี 2020 ที่แขนขวาหัก

แม้ว่าปี 2021 เขายังเจ็บเป็นระยะ ๆ ได้มา 3 แชมป์ แต่หนักเลยก็คือปีก่อน ลงแข่งแค่ 12 สนาม และคว้ามาได้ 1 โพเดียม แต่ปีนี้น่าสนใจก็คือ เขาสมบูรณ์เต็มที่แล้ว

มาร์ค มาร์เกซ เพิ่งสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ควบรถแข่ง RC213V ทุบสถิติสนามปอร์ติเมา ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 37.226 วินาที

ผงาดคว้าโพลแรกของปีในศึก โมโตจีพี 2023 สนามแรก รายการ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ ก่อนดวล “โมโตจีพี สปรินต์” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

อื้อหือ!!!!!!!!!!

…..มาถึงรุ่นรอง แต่เป็นรุ่นที่คนไทยให้ความสนใจอย่างมาก ก็คือ โมโตทู

“ก้อง” ประสบการณ์ผ่านมา 4 ปี ถือว่า กำลังยกระดับตัวเองขึ้นมาอย่างน่าสนใจ

หลังจากกการออกสตาร์ทปี 2019 ทำได้ 23 คะแนน จบในอันดับที่ 21

จากนั้นในปี 2020 ทำได้ 10 คะแนน จบอันดับที่ 25

ต่อด้วยปี 2021 คว้ามาได้ 37 คะแนน จบอันดับที่ 18

มาในซีซั่นก่อน ชัยชนะอันยิ่งใหญ่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นซีซั่น สมเกียรติ คว้าแชมป์ครั้งแรกมาครองได้สำเร็จในสนามที่ 2 ในรายการเปอร์ตามิน่า กรังด์ปรีซ์ ออฟ อินโดนีเซีย ที่มันกาลิกา อินเตอร์เนชันแนล สตรีท เซอร์กิต และเป็นเจ้าของ Fastest LAP อีกด้วย

ตลอดทั้งซีซั่นที่ผ่านมา สมเกียรติ ทำสถิติสูงสุดที่นักแข่งไทยเคยทำได้ในรายการระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ด้วยการขึ้นโพเดี้ยมอีก 3 ครั้ง

นั่นคือ ได้รองแชมป์ 2 สนาม ที่อาร์เจนติน่า กับ ออสเตรีย และได้อันดับ 3 ที่ฝรั่งเศส เท่ากับปีเดียวขึ้นโพเดี้ยมไปถึง 4 ครั้ง

ยังผลให้ สมเกียรติ คว้าอันดับ 10 มาครอง หลังจากทำได้ถึง 128 คะแนน ดีที่สุดในฐานะนักกีฬาไทย และอาชีพของเขา ทำได้รับรางวัล “นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น” เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2565

นักบิดจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” หมายเลข 35 สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย จะประเดิมสนาม ที่อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมืองปอร์ติเมา ประเทศโปรตุเกส ในรายการ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ที่ โมโตจีพี กลับมาออกสตาร์ทในทวีปยุโรป

ปีนี้ โมโตจีพี 2023 เพิ่มสนามใหม่เข้ามาถึง 2 แห่ง มียอดรวมเป็น 21 สนาม โดยสนามใหม่คือ สนามที่ 9 กรังด์ปรีซ์ ออฟ คาซัคสถาน ที่ สนาม โซกอน อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ประเทศคาซัคสถาน กับ สนามที่ 14 กรังด์ปรีซ์ ออฟ อินเดีย ที่สนาม บุดด์ห อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยของเรา ยังอยู่ในปฏิทินต่อไปเหมือนเดิม ปีนี้เป็นสนามที่่ 18 วันที่ 27-29 ตุลาคม 2566 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

สนามแรกถือว่ามันส์มาก สมเกียรติ ฮึดกลับมารั้งอันดับ 13 ลอยลำเข้ารอบ Q2 ได้สำเร็จ เมื่อวันเสาร์ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา

ถือเป็นอีกวันที่ยังต้องลุ้นกันอย่างหนัก

สมเกียรติ พลาดล้มจากการซ้อมครั้งแรก แต่ในรอบ Q3 สามารถกดเวลาทะลุเข้าสู่รอบ Q2 ได้สำเร็จ

ผลการซ้อมในรอบ FP3 ในช่วง 3 นาทีสุดท้าย “ก้อง” สามารถทำเวลาขยับขึ้นไปถึงอันดับที่ 8 ทว่าถูกเบียดลงมาในอันดับที่ 13 ก่อนเข้าสู่รอบ Q2 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 42.613 วินาที ซึ่งอาจมีผลจากการเซ็ตติ้งรถที่ยังไม่สมบูรณ์จากการพลาดล้มในรอบ FP2 วานนี้

สำหรับการแข่งขัน ในรุ่น โมโตทู จะเริ่มทำการแข่งขันในเวลา 18.15 น. ถ่ายทอดสดทาง SPOTV และ PPTVHD36

ซึ่ง สมเกียรติ มีเป้าหมายเอาไว้ว่า ในซีซั่นที่ 5 ขอตั้งเป้าคว้าอันดับที่ 5

จะถึงที่หมายหรือไม่….ถามใจเธอดู!!!!

บีแหลมสิงห์®️