7 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Sport

วิเคราะห์ฟันธงพรีเมียร์ลีก (08-04-2023)

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำค่ำคืนวันเสาร์ที่ 8 เมษายน มีลงฟาดแข้งกันถึง 8 คู่ 8 สนาม เปิดหัวกันด้วยหนึ่งทีมที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์และอีกทีมที่ลุ้นหนีตกชั้น “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ในเวลา 18.30น.

เจ้าถิ่น แมนฯยูไนเต็ด ของเอริค เทน ฮาก กลับขึ้นมารั้งอันดับ 4 จากชัยชนะในเกมที่แล้วหลังไม่ชนะใครมา 3 เกมติด เกมนี้ยังคงไม่มี คาเซมิโร่ ที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ และดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ส่วน คริสเตียน เอริคเซ่น หายเจ็บกลับมาแล้ว แต่ต้องลุ้นว่าจะฟิตพอหรือไม่

ส่วนผู้เยือน ของ ฌอน ไดซ์ ไม่ชนะใครมา 4 เกมติด ล่าสุดเสมอกับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มา 1-1 เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน อับดูลาย ดูคูเร่ ที่ติดโทษแบนจากใบแดงโดยตรงในนัดที่แล้ว ส่วน โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น รอทดสอบความฟิต

ทรรศนะ: แมนฯยูไนเต็ด เพิ่งเรียกความมั่นใจกลับมาจากชัยชนะในเกมที่แล้ว ส่วนเอฟเวอร์ตันแสดงให้เห็นว่าผู้เล่นของพวกเขาพร้อมต่อสู้เพื่อการหนีตกชั้น แต่นั่นคือการเล่นในกูดิสัน พาร์ค ซึ่งจะต่างออกไปจากการมาเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แถมสถิติช่วงหลังในการมาเยือนก็ไม่ดี ดูแล้ว แมนฯยูไนเต็ด น่าจะเก็บชัยไปได้ แต่อาจจะไม่ง่ายเพราะทีมเยือนมาเน้นรับลึกแน่

อีกคู่ในการลุ้นท็อปโฟร์ เจ้าบ้าน “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่ทำผลงานได้น่าประทับใจในฤดูกาลนี้ ปัจจุบันรั้งอันดับ 9 ของตารางเล่นได้อย่างเหนียวแน่น 16 เกมในลีกแพ้ไปแค่ 2 เท่านั้น ทีมของ โธมัส แฟรงค์ ไม่มี วิตาลี่ ยาเนลท์ และคริสโตเฟอร์ เอเยอร์ ที่บาดเจ็บ

ฝั่งของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กำลังเล่นได้อย่างมั่นใจสุด ๆ เพิ่งออกไปถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มา 5-1 กลับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ของตาราง เกมนี้ปัญหาเดียวของ เอ็ดดี้ ฮาว คือไม่มี มิเกล อัลมิร่อน แนวรุกปารากวัย ที่บาดเจ็บ ที่เหลืออยู่ครบ  

ทรรศนะ: แม้ว่า เบรนท์ฟอร์ด จะเป็นทีมที่เล่นได้เหนียวแน่นและน่าสนใจ แต่ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาผลงานไม่ดี ไร้ชัยมา 3 เกมหลังสุดในลีก ตรงข้ามกับ นิวคาสเซิ่ล ที่กำลังมั่นใจสุด ๆ ชนะมา 4 เกมติด เชื่อว่าพวกเขาน่าจะบุกไปเบียดเก็บ 3 คะแนนกลับบ้านได้

อีกทีมที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์ลงเล่นในเวลาเดียวกัน 21.00น. “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ปลด อันโตนิโอ คอนเต้ ออกจากตำแหน่งกุนซือให้ คริสเตียน สเตลลินี่ คุมทีมขัดตาทัพจนจบฤดูกาล จะเปิดบ้านดวลกับ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน

เจ้าถิ่นรั้งอันดับ 5 ของตาราง มีอยู่ 5 คะแนน เกมนี้จะไม่มี ลูคัส มูร่า ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง อิฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนตานคูร์, เอแมร์ซอน รอยัล และเบน เดวีส์ ส่วน ริชาร์ลิซอน รอเช็คความฟิต โฉมทีมไม่น่าเปลี่ยนจากเกมที่เสมอกับเอฟเวอร์ตัน วาง เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึง-มิน และแฮร์รี่ เคน เป็นสามประสานในแนวรุก

ส่วนทีมเยือนฟอร์มแรงขึ้นตอนนี้อยู่อันดับ 6 แอบมีลุ้นท็อปโฟร์เล็ก ๆ มีอยู่ 46 คะแนน ทีมของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กำลังเล่นได้อย่างมั่นใจ พวกเขาไม่แพ้ใครมา 5 เกมติด ชนะ 3 เสมอ 2 ไม่มี อดัม ลัลลาน่า แค่รายเดียวทีเหลืออยู่ครบ

ทรรศนะ: สเปอร์ส มีการเปลี่ยนแปลงทีม แต่ระบบการเล่นไม่ได้เปลี่ยนยังคงยึดรูปแบบการเล่นเหมือนสมัยที่ คอนเต้ คุมอยู่ ส่วน ไบรท์ตัน กำลังเล่นได้อย่างมั่นใจทุกอย่างดูจะลงตัวมากขึ้น โดยเฉพาะบรรดาแนวรุกอย่าง อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์, โซลลีย์ มาร์ช และคาโอรู มิโตมะ แม้จะมาเยือนแต่ ไบรท์ตัน ไม่ได้ดูเป็นรองเลย เชื่อว่าพวกเขาจะบุกไปเก็บได้อย่างน้อย 1 คะแนน

โซนตกชั้น

ข้ามมาที่การหนีตายกันบ้าง 21.00น. การเจอกันของสองทีมที่กำลังหนีตกชั้น “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ หล่นไปรั้งอันดับ 19 ของตาราง ยังไม่ได้กุนซือใหม่เข้ามาคุมทีม หลังปลด แบรนดอน ร็อดเจอร์ส ออกจากตำแหน่ง เกมที่แล้วพ่ายคารังให้กับ แอสตัน วิลล่า 1-2 เกมนี้ยังคุมทัพโดย ไมค์ สโตเวลล์ และอดัม แซดเลอร์ แถมหมดสิทธิ์ใช้งาน คีแรน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ที่ติดโทษแบนด้วย

ทีมเยือน “เดอะ เชอรี่ส์” บอร์นมัธ รั้งอันดับ 18 ของตาราง ฟอร์มลุ่ม ๆ ดอน ๆ เพิ่งพ่ายคารังต่อ ไบรท์ตัน 0-2 ทีมของ แกรี่ โอนีล ไม่มีไรอัน เฟรเดอริคส์ และจูเนียร์ สตานิสลาส ที่บาดเจ็บ นอกนั้นอยู่กันครบ

ทรรศนะ: ผีเน่ามาเจอกับโลงผุ เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังขวานหาเทิร์นนิ่งพอยต์ เพื่อกลับมาอีกครั้ง พวกเขาไม่ชนะใครในลีกมา 7 เกมติด แถมแพ้ไปถึง 5 ส่วน บอร์นมัธ เหมือนจะดี แต่พวกเขามักจะมีปัญหาในเกมเยือน 14 เกม เก็บได้แค่ 8 คะแนนเท่านั้น ดูแล้วโอกาสออกเสมอมีสูงและน่าจะซัดกันเยอะ เพราะเกมร่วมรั่วทั้งคู่

อีกคู่ลงเล่นในเวลาเดียวกัน “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ของ ฆูเลน โลเปเตกี ที่รั้งอันดับ 14 อาการน่าเป็นห่วงสุด ๆ เมื่อจะไม่มี 2 ผู้แดนกลางหลักอย่าง จอนนี่ กาสโตร และรูเบน เนเวส ที่ติดโทษแบน นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร พวกเขาจะเปิดโบลีนิวซ์ กราวนด์ รับการมาเยือนของบอลไล่โค้ชอย่าง “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่เพิ่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด กลับมาคุมทีมคำรบสอง เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่านักเตะอย่าง เมสัน เม้าท์ ที่มีข่าวเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล คือผู้เล่นคนสำคัญสำหรับเขา และน่าจะกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง หลังเสียตำแหน่งตัวจริงให้ ชูเอา เฟลิกซ์

ปิดท้ายกันด้วยคู่ดึกลงเล่นในเวลา 23.30น. “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน ที่หล่นไปรั้งอันดับบ๊วยอีกครั้ง ไม่ชนะใครมา 4 เกมติดเสมอ 2 แพ้ 2 การขาดหายไปของ เช อดัมส์ ส่งผลพอสมควรเพราะทีมมีปัญหาในเรื่องการจบสกอร์ ดาวซัลโวสูงสุดของทีมกลายเป็นมิดฟิลด์อย่าง เจมส์ วอร์ด-พราวส์

ส่วน แมนฯซิตี้ ของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครมา 11 เกมติดในทุกรายการ เกมล่าสุดถล่ม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 4-1 แถมมีข่าวดีจะได้ เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ ที่ซัดไปแล้ว 28 ประตู กลับมาเป็นตัวเลือกในตำแหน่งศูนย์หน้า ส่วน ฟิล โฟเด้น รอดูว่าฟื้นจากอาการผ่าตัดไส้ติ่งหรือยัง

ทรรศนะ: แมนฯซิตี้ เหนือว่าเยอะแถมยัง ฮาลันด์ กลับมาในสภาพที่กำลังกระหายสุด ๆ เป้าหมายเดียวของพวกเขาคือการทำงานของตัวเองให้ออกมาดีที่สุด ยังไงก็ต้องเก็บ 3 คะแนนไว้ก่อน ค่อย ๆ ไล่กดดันจ่าฝูงอย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล บวกกับเจ้าถิ่นไม่มีทีเด็ดในเกมรุกจะมาต่อกร เชื่อว่า แมนฯซิตี้ ไม่น่าพลาด

ฟันธงลงสกอร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 8 เมษายน 2023

แมนฯยูไนเต็ด 1-0 เอฟเวอร์ตัน

วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 เชลซี

สเปอร์ส 2-2 ไบรท์ตัน

เบรนท์ฟอร์ด 1-2 นิวคาสเซิ่ล

ฟูแล่ม 1-1 เวสต์แฮม

แอสตัน วิลล่า 3-1 ฟอเรสต์

เลสเตอร์ ซิตี้ 2-2 บอร์นมัธ

เซาธ์แฮมป์ตัน 0-3 แมนฯซิตี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *