พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด – เชลซี
เวลา: 22.00น.
สนาม: เซนต์ เจมส์ พาร์ค
ความพร้อมของทั้งสองทีม
คู่ต่อมาลงเล่นในเวลา 22.00น. “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่กำลังเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานจะเปิดบ้านดวลกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่ฟอร์มกำลังสด
เจ้าถิ่น นิวคาสเซิ่ล ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ยังมีเรื่องให้ปวดหัวอย่างต่อเนื่องกับปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่มี ฮาร์วีย์ บาร์นส์, สเวน บ็อตมัน, เอเลียตต์ แอนเดอร์สัน, เจค็อบ เมอร์ฟีย์, แดน เบิร์น และคัลลั่ม วิลสัน แต่ยังมีข่าวดีเมื่อ อเล็กซานเดอร์ อีซัค หัวหอกร่างโย่งหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาแล้ว ส่วน มิเกล อัลเมร่อน ที่เดินทางไกลบวกกับสภาพร่างกายไม่เต็มร้อยต้องรอเช็คความฟิต นอกนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยึดระบบ 4-3-3 ฌอน ลองสต๊าฟฟ์ คุมแดนกลางร่วงกับ บรูโน่ กิลมาไรส์ และโชลินตอน แนวรุกต้องดัน โจ วีลล็อค ไปประสานงานกับ อเล็กซานเดอร์ อีซัค และแอนโธนี่ กอร์ดอน
ฝั่งทีมเยือน เชลซี ที่ยกระดับการเล่นทำผลงานได้ดีขึ้นก่อนพักเบรกเสมอกับ แมนฯซิตี้ 4-4 ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เริ่มอยู่ในทิศทางบวกเมื่อบรรดานักเตะที่บาดเจ็บทยอยกลับมา ทั้ง เลวาย โคลวิลล์ และมาโล่ กุสโต้ ส่วน คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และโรมิโอ ลาเวีย ที่ยังไม่ได้ลงสนามกับทีม ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเรียกความฟิต ไม่มีความจำเป็นต้องเร่งใช้งาน แต่ที่ลงไม่ได้แน่ ๆ คือ เบน ชิลเวลล์ และเวสลีย์ โฟฟาน่า รวมไปถึง คาร์นีย์ ชุควูเมก้า มาในระบบ 4-2-3-1 มอยเซส ไคเซโด้ คุมแดนกลางร่วมกับ เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ แผงเกมรุกใช้ โคล พาลเมอร์ ประสานงานกับ คอนอร์ กัลลาเกอร์ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง โดยมี นิโคลัส แจ็คสัน ยืนหน้าเป้า
สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด เชลซี ทำได้ดีกว่า ชนะ 2 เสมอ 2 และนิวคาสเซิ่ล ชนะ 1
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
นิวคาสเซิ่ล (4-3-3) : นิค โป๊บ, วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้, ฟาเบี่ยน แชร์, จามาล ลาสเซลล์ส, คีแรน ทริปเปียร์, ฌอน ฌอน ลองสต๊าฟฟ์, บรูโน่ กิลมาไรส์, โชลินตอน, โจ วีลล็อค, อเล็กซานเดอร์ อีซัค และแอนโธนี่ กอร์ดอน
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ, รีซ เจมส์, อักเซล ดิซาซี่, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์ค คูคูเรลญ่า, มอยเซส ไคเซโด้, เอ็นโซ่ เฟอร์นานเดซ, โคล พาลเมอร์, คอนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และนิโคลัส แจ็คสัน
สกอร์ที่คาด: นิวคาสเซิ่ล 1-1 เชลซี
