6 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Story

CR7 in MiddleEast “โรนัลโด้”กับแนวรบฝั่งตะวันออก

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังโลกชาวโปรตุเกส แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในการเข้าร่วมทีมอัล-นาสเซอร์ ทีมดังในประเทศซาอุดีอาระเบีย จนถึงปี 2025 ด้วยสัญญาประวัติศาสตร์แพงสุดในโลกลูกหนัง

เหลี่ยมนี้ โรนัลโด้ สามารถทำเงินได้สูงถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐต่อฤดูกาล โดยพิจารณาจากเงินเดือนฟุตบอล สิ่งจูงใจ และรายได้เชิงพาณิชย์

การเปิดใจให้สัมภาษณ์ของเขาถือว่า น่าสนใจ มุ่งมั่น ร้อนแรงและแข็งกร้าวเช่นเดิม กับโลกใหม่ที่ต้องลุย

“ผมมาที่นี่ไม่ใช่แค่เพราะฟุตบอล ผมมาเพื่อเปลี่ยนความคิดของคนรุ่นใหม่ ผมมีข้อเสนออื่น ๆ จากยุโรป, โปรตุเกส และจากบราซิลด้วย” โด้ อ้างว่าหลายสโมสรพยายามเซ็นสัญญากับเขาก่อนที่จะทำข้อตกลงกับ อัล-นาสเซอร์

“ผมเป็นผู้เล่นที่ไม่เหมือนใคร ผมทำลายสถิติทั้งหมดในยุโรปและผมต้องการทำลายสถิติที่นี่ด้วย สัญญานี้ไม่เหมือนใคร เพราะผมเป็นผู้เล่นที่ไม่เหมือนใคร ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติ”

“ผมไม่ได้เพียงแค่มาปิดอาชีพการค้าแข้งในซาอุดีอาระเบีย ตามที่หลายคนพูด นั่นเพราะพวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับฟุตบอล ผมรู้ว่าที่นี่ลีกมีการแข่งขันสูง ผมเองก็ไม่สนใจว่าผู้คนจะพูดอะไรเกี่ยวกับตัวเลือกนี้ ผมได้ตัดสินใจแล้ว ผมมีความสุข”

“งานของผมในยุโรปเสร็จสิ้นแล้ว ผมเล่นให้กับสโมสรที่ดีที่สุดในโลก และผมก็ชนะทุกอย่าง ตอนนี้ผมมีความสุขและภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับ อัล-นาเซอร์”

หวานจนน้ำตาลขึ้นตา!!!!!

๐ ลีกลูกหนังซาอุดีเป็นแบบไหน

ซาอุดีโปรเฟสชันนัลลีก The Saudi Pro League (SPL) เป็นลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศซาอุดีอาระเบีย ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1976

ในช่วงปลายทศวรรษ 1950 ฟุตบอลในซาอุดีอาระเบีย ได้จัดการแข่งขันในระดับภูมิภาค โดยมีการเตะทั่วประเทศเพียงรายการเดียว คือ ฟุตบอลคิงส์คัพ จากนั้นในปี 1957 กระบวนการคัดเลือกครั้งแรกได้รวมการแข่งขันระดับภูมิภาคของภาคกลาง ตะวันตก ตะวันออก และเหนือเข้าด้วยกัน สโมสรต่าง ๆ แข่งขันกันในลีกภูมิภาคของตนเพื่อเข้าชิงคิงส์คัพ ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ผู้ชนะเลิศคิงส์คัพ ไม่ใช่ผู้ชนะเลิศลีก แต่อย่างใด

กระทั่ง ปี 1976 ลีกฟุตบอลอาชีพเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยมีทีมทั้งหมด 8 ทีมในฤดูกาลถัดมา จำนวนสโมสรเพิ่มขึ้นเป็น 10 ทีม

๐ พัฒนาการ47ปีบอลลีกซาอุฯ

ปัจจุบัน ในการเตะซีซั่น 2022–23 (รู้จักกันในชื่อ Roshn Saudi League) เป็นลีกอาชีพปีที่47 เริ่มแข่งขันเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมปีที่ผ่านมาและจะปิดฤดูกาลในเดือนพฤษภาคมนี้ มีทั้งสิ้น 16 ทีม และในฤดูกาลหน้าจะเพิ่มเป็น 18 ทีม ทำให้ระบบการขึ้นชั้นปีนี้จะมีทั้งสิ้นถึง 4 ทีมและทีมที่ตกชั้นจะเป็น 2 ทีม

ซาอุฯ มีลีกที่น่าสนใจขนาดไหน หลายคนไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ พวกเขาพัฒนาขึ้นมาจนผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกไปแล้วทั้งสิ้น 6 สมัย ประกอบด้วย ปี 1994, 1998, 2002, 2006, 2018 และ 2022 ได้รับชัยชนะ 4 นัด ซึ่งถูกจารึกว่า พวกเขาชนะ อาร์เจนติน่า แชมป์โลกทีมปัจจุบันได้อีกด้วย

สโมสรฟุตบอลจาก ซาอุดีอาระเบีย ได้แชมป์ระดับเอเชียถ้วยใหญ่สุด นั่นคือ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รวมทั้งสิ้น 6 สมัย จากการเข้าชิง 15 ครั้ง โดยสถิติทีมที่ได้แชมป์มากที่สุดของเอเชีย เป็นของทีมจากประเทศพวกเขานั่นคือ อัล-ฮิลัล ที่ครองแชมป์ได้มากสุดของทวีปคือ 4 สมัยด้วยกัน

สำหรับ 16 ทีมสโมสรอาชีพลีกสูงสุด ประกอบด้วย : อั๊บฮา, อัล-อาห์ลี, อัล-บาติน, อัล-อิตติฟาจ, อัล-ไฟซาลี่, อัล-ฟาเตห์, อับล-เฟย์ฮา, อัล-ฮาเซ็ม, อัล-ฮิลัล, อัล-อิตติฮัด, อัล-นาสเซอร์, อัล-เรเอ็ด, อัล-ชาบับ,ฅ อัล-ตาอาวูน, อัล-ตาอิ และดาแม็ก

น่าสนใจก็คือในตำแหน่งผู้จัดการทีมของลีกซาอุดีอาระเบียทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ

มีทั้งหมด 7 สโมสรที่เคยครองแชมป์ลีกซาอุฯ ประกอบด้วย อัล-ฮิลลัล 18 สมัย, อัล-นาสเซอร์ 9 สมัย, อัล-อิติฮัด 8 สมัย, อัล-ชาบับ 6 สมัย, อัล-อาลี 4 สมัย, อัล-อิตติฟาจ 2 สมัย และอัล-ฟาเตห์ 1 สมัย

๐ บ้านใหม่-แกงค์ใหม่”เพื่อนโด้”

สโมสร อัล นาเซอร์ ก่อตั้งเมื่อ 24 ตุลาคม 1955 โดยมี มาซัลลิ อัล-มูอัมมาร์ เป็นประธานสโมสรคนปัจจุบัน ดีกรีปริญญาโทด้านการสื่อสารการตลาดจาก Manchester Metropolitan University และปริญญาโทด้านการบริหารระดับโลกด้านกฎหมายกีฬาระหว่างประเทศจาก Higher Institute of Law and Economics ประเทศสเปน

สนามแข่งคือ เมอรูซูล พาร์ค ในกรุงริยาดห์ มีความจุ 25,000 ที่นั่ง เพิ่งเปิดใช้มาเมื่อปี 2015

เป็นแชมป์ลีกมาแล้ว 9 สมัย ปี 1974–75, 1979–80, 1980–81, 1988–89, 1993–94, 1994–95, 2013–14, 2014–15, 2018–19 และแชมป์คิงส์คัพ 6 สมัย ผลงานดีที่สุดในบอลเอเชียคือ แชมป์เอเชี่ยน คัพ วินเนอร์สคัพ ปี 1998 และเคยเป็นรองแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 1995

ทีมเคยไปเล่นฟุตบอลประวัติศาสตร์ “The International Club” ปี 2000 โดยเตะรอบแบ่งกลุ่มได้อันดับ 3 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพ

กุนซือปัจจุบันคือ รูดี้ การ์เซีย วัย 58 ปีชาวฝรั่งเศส ที่มีประสบการณ์โชกโชน ทั้งการคุมทีมดังอย่าง โรม่า, มาร์กเซย และลียง

นักเตะชื่อดังระดับโลกที่อยู่ที่นี่คือ ดาวิด ออสปิน่า ผู้รักษาประตูทีมชาติโคลอมเบีย ที่เคยอยู่กับ อาร์เซนอล และแวงซองต์ อาบูบาก้าร์ กัปตันทีมชาติแคเมอรูน ชุดลุยบอลโลกครั้งล่าสุด และมีนักเตะติดทีมชาติซาอุดี้ ไปลุยบอลโลก 6 คน

ส่วน โรนัลโด้ จะปรับตัวอย่างไร ทั้งวัฒนธรรม การทำใช้ชีวิต สภาพอากาศ และการทำงานร่วมกันกับสังคมใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

คือสิ่งที่ที่ทุกคนรอว่า โรนัลโด้ จะตอบว่าอะไร!?!?!?

บี แหลมสิงห์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *