7 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Story

FSG2023: ฆ่าควาย(อย่า)เสียดายเกลือ

มันเป็นไปแล้ว สำหรับทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล ที่อยู่ ๆ ก็ปรับโครงสร้างอย่าง “น่าตกใจ” ปล่อยขุมกำลังออกไปรวมเดียวมากมายในแดนกลางถึง 5+1

ในทางกลับกันเดินเข้ามาแค่ 2 คน ใครว่า ไม่เปนไร คือคุณกำลังต้องกินบาคามอลแล้วนะครับ

คิดง่าย ๆ ในบริษัทคุณ ถ้าในแผนกมีคนอยู่ 10 คน แล้วออกไป 6 คน รับมาใหม่ 2

ถามตัวเองซิว่า มันยังไง แค่นี้สีข้างก็จะไม่แดงแล้วจ้า

ยังผลให้เกิดประเด็นการไล่ล่า โรเมโอ ลาเวีย ที่กลับมาร้อนแรงสุด ๆ อีกครั้ง หลังจากเงียบไป 2 วัน โดยปกติแล้ว เราจะเห็นว่า ลิเวอร์พูล ไม่เคยมีข่าวยื่นเงิน จะเป็นข่าวเช็คบิลมากกว่า อาทิ กรณีซีซั่นนี้ของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซโบสไล ส่วนที่เหลือคือ ข่าวล้วน ๆ

อย่าลืมว่า ข่าวก็คือข่าว

ทีนี้ดีลของ ฟาบินโญ่ มันยืดเยื้อผิดปกติ เช่นเดียวกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก่อนจะปิดลงไปทั้งสองดีล ทีนี้ ลิเวอร์พูล ก็อยู่ไม่ได้ ก็ต้องหานักบอลใหม่เข้ามาเติมแดนกลาง

เพราะเชื่อว่า ยังไงก็ไม่ใช่แผนที่ทีมจะต้องเสียนักบอลในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวกลาง ไปพร้อม ๆ กันแบบนี้

การซื้อมาใหม่สองคนกลายเป็นไม่พอแล้ว เนื่องจากทั้ง แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็จะเล่นได้คือ ตัวบนซ้าย บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ หรือเล่นดับเบิ้ลไพวอท หรือเดือยคู่ ส่วน โซโบสไล ยิ่งแล้วใหญ่ เป็นบ็อก ทู บ็อก ขวาในสไตล์ตะบึงห้อไปข้างหน้า

ทีนี้นักบอลที่อยู่ในตลาดจริง ๆ แล้วเล่น มิดฟิลด์ตัวกลาง หรือ เล่นมิดฟิลด์ตัวรับ จึงไม่ใช่ เคเฟรน ตูราม ที่เล่นบ็อกซ์ ทู บ็อก ซ้าย, ไม่ใช่ มานู โกเน่ ที่ถนัดอลองไซด์ หรือมิดฟิลด์คู่ ที่ซ้อนหลังตัวยืนปักกลางอีกที

หวยจึงออกมาที่ ลาเวีย

ซึ่งมันก็ไม่ได้เก่งอะไรเบอร์นั้นหรอก แต่ตำแหน่งมันได้ และเป็นการลงทุนระยะยาว

นี่คือการดูว่า “ธุรกิจ”นั้นอาจมีลักษณะอย่างไรบนหน้ากระดาษ

🔺 เพิ่มความพร้อมใช้งาน/ตัวเลือก

🔻 อายุเฉลี่ยลดลง

🔻 ค่าจ้างลดลง

🔺 เพิ่มคุณภาพระยะยาว

ปกติเค้าตั้งราคาไว้ 50 ไปขอซื้อเค้า 35 เป็นใครก็ขายยากแน่นอน ทีนี้เราไปดูว่า ตัวเลขกับมาตรฐานของ ลาเวีย นั้น ขนาดไหน

กับการที่เป็นดาวรุ่งที่ถูก แมนฯซิตี้ ไม่เอาไว้ร่วมทัพ และเล่นชุดใหญ่แค่ปีเดียว 29 นัดในลีก ตัวจริง 26 นัด

แต่ราคาทะลวงไปถึง 50 ล้าน

เท่ากับว่าถูกกว่า โซโบสไล แค่ 10 ล้าน และแพงกว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ ถึง 15 ล้าน แม้ แกรี่ หรือ แม็กก้า จะล็อคสเป็คค่าตัวไว้ก็ตามที

ที่สำคัญคือ การประเมินค่าตัวในท้องตลาด ลาเวีย มันแค่ 32 ล้านยูโรเท่านั้น!!!

📍ทีนี้เรามาติดตามนำเสนอโดย You Drink, Don’t Drive ร่วมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน

ด้วยความห่วงใย เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยภายใต้โครงการดีๆ Suzuki Cause We Care เหนือกว่าความใส่ใจ คือเข้าใจทุกความต้องการ📍

……..ที่ผ่านมาดูเหมือนกับว่า ทีมกำลังมีเป็นปัญหาที่ปล่อยให้ผู้เล่นจำนวนมากเดินออกจากทีมแบบฟรี ๆ สำหรับสโมสรที่มีนโยบายใช้เงินแต่พอเพียง

นั้นเป็นปัญหาใหญ่

เมื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทุกคนรู้ดีว่านี่จะเป็นฤดูร้อนที่ทีมจะสร้างใหม่ หลังจากพลาดพ่ายในปีก่อน

แต่การมาเสียสองนักเตะเก๋าเกมในแดนกลางนั้น จำเป็นขนาดนี้ที่ต้องใช้ความเสี่ยงและการตัดสินใจที่ยากลำบากขนาดนี้เลยละหรือ

ผมเคยยกตัวอย่างในยุคของ บ็อบ เพสลี่ย์ เป็นปรากฎการณ์อย่างแน่นอน รู้ว่าเมื่อใดควรขายผู้เล่น ซึ่ง จิมมี่ เคส อาจเป็นคนเดียวที่เขาย้ายออก “เร็วเกินไป”

แต่ อลัน เคนเนดี, เทอร์รี่ แมคเดอร์มอตต์ กระทั่ง ฟิล ธอมป์สัน ถูกปล่ออย่างรวดเร็ว เหมือนจะไม่แสดงความเมตตา เมื่อถึงเวลา!!!!

สมมุตว่า ลิเวอร์พูล ได้เงิน 40 ล้านปอนด์สำหรับฟาบินโญ่ จริง และเข้าตลาดไปซื้อ โรเมโอ ลาเวีย ในราคาใกล้เคียงกัน มันก็เหมือนกับข้อตกลงแลกเปลี่ยนเป็นหลัก

ฟาบินโญ่ เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม แต่จากมุมมองระยะยาว ลิเวอร์พูลจะทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมในการซื้อ ลาเวีย วัย 19 ปี

แต่นั่นแหล่ะ ถ้าไม่มีตัวมากประสบการณ์ แล้วสลับเล่นระหว่าง ลาเวีย กับ สเตฟาน บาซเซติช รับรองว่าเกิดปัญหา

ของบางอย่าง ใหม่อย่างเดียวไม่พอ มันต้องมีประสบการณ์มาช่วยด้วย ซึ่งดาวจะโรจน์อย่าง ไทเลอร์ มอร์ตัน เคยพังแบบสิ้นท่ามาแล้ว ในเกมเจอกับ สเปอร์ส เมื่อสองฤดูกาลก่อน และเขาก็หาทางกลับฝั่งไม่เจอ

น่าจับตามองก็คือ ความเสี่ยงมหาศาลที่จะเกิดขึ้น อย่าลืมว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ใช้เวลาหลายปีกว่าจะไปถึงระดับที่เขาเป็น เช่นกันกับ ฟาบินโญ่ ไม่เล่นเกมให้ทีม 5 เดือนเพราะต้องปรับตัว

คือเคสของ ฟาบินโญ่ เห็นชัดเหมือนพนักงานบริษัท เพราะบางคนอาจดูไม่โดดเด่น แต่อาจเป็นทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้ ควรรักษาเอาไว้

ทีนี้มาดูสถิติที่มาจาก SmarterScout คุณภาพและสไตล์การเล่นของผู้เล่นถูกจัดอันดับในระดับระหว่าง 0-99 หลังจากความถี่และคุณภาพของการเล่น

ตัวเลขที่ใช้ในที่นี้คือฤดูกาล 2022-23 ของผู้เล่นตามลำดับ ซึ่ง ฟาบินโญ่ มีผลงานที่ดีกว่าในการเล่นเกมรับเฉียบขาดกว่าก็คือ 74 คะแนน ขณะที่ ลาเวีย 46 แต้ม เรื่องนี้อย่าเพิ่งตกใจทำไมห่างกันเยอะ

มันมาจากธรรมชาติของต้นสังกัด เพราะ ลิเวอร์พูล เล่นเกมบุก ครองเกมได้ดีกว่า เซาธ์แฮมป์ตัน ดังนั้นพอเวลาเกมรับจะเป็นระบบดูดีกว่า เรตติ้งย่อมดีกว่าทีมที่โดนบุกยับจนกระทั่งตกชั้นในบั้นปลาย

ลาเวีย จึงมีจำนวนการเล่นเกมรับที่มากกว่า แต่ประสิทธิภาพด้อยกว่า หมายความว่าเขาใช้เวลาในการตั้งรับนานกว่า ฟาบินโญ่ ซึ่ง ตรรกะนี้ก็เพราะลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่า เซาธ์แฮมป์ตัน

ฟาบินโญ่ ยังมีอันดับการรักษาลูกบอลที่ดีกว่าอย่างมาก ครองบอลได้ดีกว่า แม้ว่าเมื่อเราดูจากตาเปล่าจะเห็นได้ว่า ลาเวีย มีเทคนิคที่ดีกว่าและมีทักษะในการเล่นบอลมากกว่า

แต่คำอธิบายที่สมเหตุสมผลในที่นี้คือ ฟาบินโญ่ ใช้ร่างกายและขนาดของเขาให้เป็นประโยชน์

ที่น่าสนใจคือ ลาเวีย มีสถิติดีกว่าในการเข้าปะทะเข้าดวลกันในภาคพื้นดิน ซึ่งจุดนี้พอจะบ่งชี้ว่าทักษะของผู้เล่นในการดวลกันตัวต่อตัวนั้น ลาเวีย แข็งแกร่งเพียงใด

Stylistic metrics หรือ เมตริกโวหาร นั้น ฟาบินโญ่ ทำได้ดีกว่ามากในการขัดขวางการเคล

อนที่ 88 ต่อ 24 และการเข้าสกัดบอลที่กำลังเคลื่อนที่ ได้ดีกว่าชัดเจน 64 ต่อ 36

อย่าลืมว่า ทั้งหมดนี้จะต้องตั้งประเด็นในจุดที่ว่า ลิเวอร์พูล ครองบอลได้มากกว่า เซาแธมป์ตัน เยอะมาก และนั่นคือมุมมองที่ต้องคำนึงถึงตลอดการวิเคราะห์ทั้งหมดนี้

ซึ่งภาพรวมนั้น ฟาบินโญ่ เป็นมิดฟิลด์ที่มีสไตล์ที่เน้นไปที่การครองบอลมากกว่าและส่งต่อให้ใครบางคนเพื่อเดินหน้าต่อ

ตรงกันข้ามก็คือ ลาเวีย เป็นมิดฟิลด์ที่ชอบเคลื่อนตัว ชอบไปกับบอล ส่วนใหญ่จะชอบการพาบอลหลบคู่แข่งด้วย

ซึ่งการเล่นเกมรับของลาเวียนั้นถือว่าดี แต่ยังไม่ใกล้เคียงของฟาบินโญ่

Worst case scenario ก็คือ ไม่ได้ใครมาเลย แต่เสียออกไปเรื่อย ๆ นี่แหล่ะ แต่ก็นั่นแหล่ะ

หลังลับแล ยังมีรุ่งอรุณอยู่เสมอ……

ที่สำคัญสุดแรงเรียมก็คือ FSG เมื่อคุณฆ่าควาย

อย่าได้”เสียดายเกลือ”

บีแหลมสิงห์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *