การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้างกลางสัปดาห์ในค่ำคืนวันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2023 มีลงฟาดแข้ง 2 คู่ด้วยกัน เล่นในเวลา 02.00น. เหมือนกัน
02.00น. ลิเวอร์พูล – ฟูแล่ม
เจ้าถิ่น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เพิ่งบดเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มาแบบสุดมันส์ 4-3 ทำให้พวกเขาคว้าชัยมา 4 เกมติดขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตารางด้วยการมี 56 คะแนน เกมนี้ต้องรอเช็คความฟิต เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่วิ่งดีใจจนเจ็บแฮมสตริง รวมไปถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ, นาบี เกอิต้า และสเตฟาน บายเซติช นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าอาจจะมีปรับทัพบางตำแหน่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น่าจะได้กลับมาสตาร์ทตัวจริงเล่นร่วมกับ ฟาบินโญ่ และเคอร์ติช โจนส์ แนวรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ซัดไปแล้ว 184 ประตูรั้งอันดับ 6 ดาวยิงตลอดกาลของสโมสรประสานงานกับ โคดี้ กัคโป และดีโอโก้ โชต้า
ฝั่งทีมเยือน “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม เพิ่งพ่ายให้กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คารังมา 1-2 พวกเขารั้งอันดับ 10 ของตารางสถานการณ์ค่อนข้างลอยตัวไม่ได้ลุ้นอะไรแล้ว ทีมของ มาร์โก ซิลวา ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช หัวหอกที่ติดโทษแบน รวมไปถึงแนวรุกอย่าง วิลเลี่ยน ด้วย คาร์ลอส วินิซิอุส ที่เพิ่งซัดมาน่าจะได้ออกสตาร์ทแทน ที่เหลือตามรายงานไม่มีปัญหาอะไร นำโดย ชูเอา ปาลินญ่า, แฮร์ริสัน รี๊ด, บ็อบบี้ เด คอร์โดว่า-รี๊ด, อันเดรียส เปเรยร่า และมาเนอร์ โซโลมอน
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล ชนะได้ 2 เสมอ 2 และฟูแล่ม ชนะ 1 เจอกันนัดแรกในฤดูกาลนี้เสมอ 2-2 ที่คราเว่น ค็อตเทจ
ทรรศนะ: ลิเวอร์พูล กำลังเล่นได้อย่างมั่นใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้รู้สึกกดดันกับการติดท็อปโฟร์ พยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรอีกเรื่อง ส่วน ฟูแล่ม ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว เล่นตามเสียงเชียร์ แต่เกมนี้ต้องออกมาเยือนเจองานยากลำบากแน่ เพราะ “หงส์แดง” กำลังคึกสุด ๆ ปัญหาของ ลิเวอร์พูล คือแนวรับเสียประตูง่าย แต่ข้อดีคือเกมรุกที่ผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำ คาดว่า ฟูแล่ม ไม่น่ารอดเจ้าถิ่นน่าจะเอาชนะไปได้ไม่ยาก
02.00น. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – เวสต์แฮม
อีกคู่ที่ลงเล่นในวันเดียวกัน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผงาดแซง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เข้าไปนำจ่าฝูงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนนี้กำลังติดลมบนเดินหน้าใส่เกียร์แบบไม่มียั้ง ทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ต้องรอทดสอบความฟิต นาธาน อาเก้ เพียงรายเดียว นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร เพราะขุมกำลังทดแทนกันได้อย่างอยู่แล้ว มีความเป็นไปได้ว่า ฆูเลี่ยน อัลบาเรซ ที่เพิ่งยิงในเกมล่าสุดน่าจะหลุดไปนั่งสำรองเปิดทางให้ เควิน เดอ บรอยน์ ที่ได้พักกลับมาเป็นตัวจริง ที่เหลือมีโรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน, ริยาด มาห์เรซ, แจ็ค กรีลิช และเออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์
ฟากผู้มาเยือน “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เดวิด มอยส์ ยังคงต้องลุ้นหนีตกชั้น หลังบุกไปพ่ายให้กับ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ 4-3 ทำให้ตอนนี้มีอยู่ 34 คะแนนรั้งอันดับ 15 มีแต้มเหนือโซนแดง 5 คะแนน เกมนี้มีปัญหาแค่จุดเดียวคือยังหมดสิทธิ์ใช้งาน จานลูก้า สคามัคก้า หัวหอกอิตาเลี่ยนที่บาดเจ็บ ที่เหลืออยู่กันครบ เชื่อว่าพวกเขาจะปรับทีม แอรอน แครสส์เวลล์ และซาอิด เบนราห์มา น่าจะได้กลับมาเป็นตัวจริงร่วมกันประสานงานทางกราบซ้าย นอกนั้นนำโดย เดแคลน ไรซ์, โธมัส ซูเซ็ค, จาร์ร็อด โบเว่น, ลูคัส ปาเกต้า และมิคาอิล อันโตนิโอ
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ ชนะ 3 เสมอ 1 และเวสต์แฮม ชนะ 1
ทรรศนะ: แมนฯซิตี้ ฟอร์มดีสุด ๆ พวกเขาไม่แพ้ใครมา 18 เกมติดในทุกรายการ เรียกได้ว่าพร้อมทั้งความมั่นใจและสภาพทีม เจอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ยังต้องลุ้นหนีตกชั้น ทุกคะแนนยังคงมีค่าสำหรับพวกเขา แต่เมื่อดูจากนักเตะและวิธีการเล่น ทีมเยือนเป็นรองหลายขุม แถมช่วงนี้เก็บรับยังสะเปะสะปะ 6 นัดหลังสุดเก็บคลีนชีตได้แค่นัดเดียว เจอความหลากหลายของ ซิตี้ ดูแล้วไม่น่าจะต้านทานได้
ฟันธงลงสกอร์
ลิเวอร์พูล 3-1 ฟูแล่ม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 เวสต์แฮม
