#เอ๊ดเวิร์ดส์คืนรัง ……. #ตามหงส์ลงสนาม
เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เจ้าของทีมลิเวอร์พูล ได้ประกาศแต่งตั้ง ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา มาเป็นซีอีโอของสโมสร
“ไมเคิล คือ หนึ่งในผู้บริหารที่มีพรสวรรค์ที่น่าเกรงขามที่สุดในฟุตบอลโลก” ไมค์ กอร์ดอน ประธาน FSG กล่าว “เขากลับมาหาเราในบทบาทที่มีความอาวุโสมากกว่าที่เขาเคยดำรงตำแหน่งไว้ก่อนหน้านี้ และด้วยภาระหน้าที่ที่กว้างขึ้นกว่าเดิม”
“เห็นได้ชัดว่าเมื่อเราติดต่อเขาในตอนแรกว่า ขอบเขตที่กว้างขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญในการจูงใจในการกลับมาสู่อุตสาหกรรมฟุตบอลแห่งนี้ ปรากฎว่า เมื่อได้ทราบในเรื่องนี้ และอื่นๆ อีกมากมาย ความทะเยอทะยานของเขาตรงกับเรา ดังนั้นทุกอย่างจึงลงตัว”
กอร์ดอน กล่าวเสริมว่า เอ็ดเวิร์ดส์ จะเข้ามารับช่วงต่อความรับผิดชอบที่ผมมีก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการกำกับดูแล และการจัดการการดำเนินงานฟุตบอลของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
เอ็ดเวิร์ดส์ เข้าร่วมทีมลิเวอร์พูล ปี 2011 และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการด้านกีฬาในปี 2016 ก่อนออกจากสโมสรในช่วงซัมเมอร์ปี 2022
หลังจากลาออกจากตำแหน่ง เขาได้ปฏิเสธข้อเสนอหลายข้อเพื่อกลับมาเล่นเกมนี้ ซึ่งรวมถึงบทบาทในการดำเนินการด้านฟุตบอลที่น่าสนใจทั้ง เชลซี และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ครั้งนี้ เอ็ดเวิร์ดส์ จะมาทำอะไร
แน่นอนที่สุดก็คือ อย่างน้อยการเฟ้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่ หลังจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ อำลาทีมไปนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่ง
บทบาทใหม่ของเขาที่ FSG จะรวมถึงการปรับโครงสร้างการดำเนินงานด้านฟุตบอล ที่ลิเวอร์พูล ซึ่งจะรวมถึงการแต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาคนใหม่ในอีกไม่ช้านี้ด้วยสัญญาระยะยาว ไม่ใช่กะปริดกะปรอย หรือเสร็จแล้วก็ป๋อย อย่างที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล ไม่มีผู้อำนวยการด้านกีฬาหลังจาก ยอร์ก ชมัดท์เค่ ออกจากตำแหน่งในเดือนมกราคม และตำแหน่งนี้โฟกัสไปที่ ริชาร์ด ฮิวจ์ส
ตามข่าวคือ ฮิว์จส์ ที่มีความสนิทสนมกับ เอ็ดเวิร์ดส์(อาจจะไม่สนิทถึงขั้นใส่ฟันปลอมให้กันนะ) กำลังจะไขก๊อกลาจากตำแหน่งผู้อำนวยการด้านเทคนิคของบอร์นมัธ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล อยู่ระหว่างการพิจารณาสัญญากับ ลิเวอร์พูล
ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาคนใหม่จะรับผิดชอบในการระบุตัวและคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งของคล็อปป์
BBC ตั้งข้อสังเกตุได้น่าสนใจว่า ข้อเสนอที่จะดึง เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมายังสโมสรอีกครั้ง ไม่เพียงแต่จะทำงานให้กับ ลิเวอร์พูล เท่านั้น แต่มีแนวโน้มว่า ทีมจะต้องให้เขาไปช่วยบริหารจัดการสโมสรแห่งที่สอง อีกด้วย
“หนึ่งในปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดในการตัดสินใจของผมคือความมุ่งมั่นที่จะซื้อและดูแลสโมสรเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้พื้นที่ขององค์กรของพวกเขาเติบโต” เอ็ดเวิร์ดส์ ระบุในแถลงการณ์
“ผมเชื่อว่าการรักษาความสามารถในการแข่งขัน การลงทุ นและการขยายพอร์ตโฟลิโอฟุตบอลในปัจจุบันเป็นสิ่งจำเป็น”
แล้วที่ผ่านมา เอ็ดเวิร์ดส์ ได้รับเครดิตอะไรจากการทำงานกับลิเวอร์พูล?
เอ็ดเวิร์ดส์ได้รับเครดิตว่ามีบทบาทสำคัญในความสำเร็จที่ทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2020 และแชมเปี้ยนส์ลีก 2019 เขาได้ช่วยรวบรวมทีมที่คว้าแชมป์ลีกที่รอคอยมานาน 3 ทศวรรษ
เขามาทำงานเริ่มแรกในฐานะหัวหน้าฝ่ายประสิทธิภาพและการวิเคราะห์ หลังจากย้ายจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส เข้าร่วมชายคาลิเวอร์พูล ในปี 2011 จากนั้นเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการด้านกีฬาในอีก 5 ปีต่อมา
เอ็ดเวิร์ดส์ ถูกมองว่า เขาคือหัวใจสำคัญในการนำผู้เล่นคนสำคัญเข้ามาหลายคน ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการด้านกีฬาของลิเวอร์พูล อาทิ อลิสซอน เบ็คเกอร์, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และโมฮาเหม็ด ซาลาห์
ขณะเดียวกันก็ทำข้อตกลงอย่างน่าสนใจอย่าง ซาดิโอ มาเน่, แอนดี โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่ และอิบราฮิมา โคนาเต้
ปัจจุบัน เอ็ดเวิร์ดส์ อายุ 44 ปี เป็นคนใต้ เกิดที่เซาธ์แฮมป์ตัน
ล่าสุด เอ็ดเวิร์ดส์ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับ Ludonautics ซึ่งเป็นธุรกิจที่ปรึกษาด้านกีฬาที่ก่อตั้งโดยเอียน เกรแฮม ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2012-2023
เอ็ดเวิร์ดส์ จะยุติการทำงานที่ปรึกษาให้ Ludonauticsในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
“หลังจากเคยรับใช้สโมสรมาก่อนหน้านี้ ผมไม่ต้องการสิ่งเตือนใจว่า กองเชียร์ในเมืองนี้ต้องบลงทุนและทุ่มเทด้านอารมณ์ไปมากขนาดไหน เช่นเดียวกับแฟนบอลทั่วทั้งสหราชอาณาจักรและทั่วโลก ผมทราบดี” เอ็ดเวิร์ดส์กล่าว
“ผมรอคอยที่จะเริ่มต้นงานนี้อย่างเต็มที่แล้ว”
………ที่นี้น่าสนใจครับ เพราะ ลิเวอร์พูล ต้องปรับโครงสร้างครั้งสำคัญเมื่อ คล็อปป์ อำลาทีม เพราะนี่เป็นเรื่องใหญ่มาก
แน่นอนที่สุดว่า ยามนี้เพลานี้ สโมสรต้องการคนที่คุ้นเคยกับทีมจริงๆ ซึ่งคน ๆ นั้นจะต้องเข้าใจถึงวัฒนธรรม, วิธีการ, ธรรมชาติผู้บริหาร, วิถีของแฟนบอล และกลไกกระบวนการ ที่จะสร้างความมั่นคง, ยั่งยืน และประสบความสำเร็จ
เอ็ดเวิร์ดส์ เข้ามาครั้งนี้ด้วยบทบาทที่ใหญ่กว่าเดิม โดยเรื่องฟุตบอลทั้งหมดของ ลิเวอร์พูล จะต้องฝากไว้ในมือของเขา ในฐานะของเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดในแง่ของฟุตบอล และได้รับความไว้วางใจจาก FSG
อย่างที่บอกไปก็คือ งานสำคัญก็คือ การเฟ้นหาผู้จัดการทีมที่เหมาะสมที่สุดในการมาทำงาน และก็ต้องทำให้ดีที่สุดเพราะมี 2 ข้อ 2 ประเด็นสำคัญจากเรื่องเดียว ที่แฟนบอลต้องทำความเข้าใจให้มั่น
1.หาผู้จัดการคนใหม่
2.ไม่ใช่หาคนมาทำงานแทน คล็อปป์
เพราะ คล็อปป์ คือ คล็อปป์ ไม่มีใครแทนได้
ท้าทายกว่าครั้งที่แล้วเยอะมากจริง ๆ สำหรับ เอ็ดเวิร์ดส์ เพราะครั้งก่อนมาแบบคนไม่รู้จัก แต่มาครั้งนี้เป็นข่าวดัง เป็นสกู๊ปแรงยิ่งกว่าซื้อนักบอลระดับท็อปหลักหลายล้านปอนด์
ที่สำคัญก็คือ เหมือนเป็นพนักงานจากบริษัทแม่ และมาเป็น CEO บริษัทลูก
สุดท้ายเวลาจะหมุนเพื่อเป็นข้อพิสูจน์ที่ว่า จะเป็นอะไรกันแน่
อัศวินเอ็ดเวิร์ดส์ หรือแค่ เอ็ดเอ้………
#บีแหลมสิงห์
