การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022-23 ในรอบชิงอันดับ 3 และรอบชิงชนะเลิศ ลงเล่นในวันเดียวกัน ประเดิมกันด้วยคู่ชิง “ตราหมากรุก” โครเอเชีย จะพบกับ “กระทิงดุ” สเปน ในเวลา 01.45น.
รอบชิงชนะเลิศ
01.45น. โครเอเชีย – สเปน
“ตราหมากรุก” โครเอเชีย ภายใต้การคุมทีมของ ชลัตโก้ ดาลิช ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการเอาชนะเจ้าภาพ “อัศวีสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ในช่วงการต่อเวลาพิเศษ 4-2 ชุดนี้ไม่มี ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่บาดเจ็บ แต่ที่เหลือถือว่าอยู่กันครบ ตามรายงานไม่มีปัญหาอะไร ยึดระบบ 4-3-3 เหมือมเดิม นำโดยกัปตันทีมลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และมาเตโอ โควาซิซ เป็นสามมิดฟิลด์ที่จะคุมจังหวะเกมแดนกลาง ส่วนแนวรุกวาง มาริโอ ปาซาลิช ประสานงานกับ อังเดรย์ ครามาริช และอีวาน เปริซิซ
ฝั่ง “กระทิงดุ” สเปน คุมทีมโดย หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เริ่มได้ทีมที่ลงตัวมากขึ้น เอาชนะ อิตาลี มาได้ 2-1 เกมนี้ตามรายงานไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะออกสตาร์ทด้วยผู้เล่นชุดเดิมในระบบ 4-2-3-1 โรดรี้ ดาวเตะจากแมนฯซิตี้ ดีกรีนักเตะยอดเยี่ยมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะคุมแดนกลางร่วมกับ มิเกล เมริโน่ แนวรุกใช้ เยเรมี่ ปีโน่, กาบี้ และอันซู ฟาติ โดยมี อัลบาโร่ โมราต้า เป็นหน้าเป้า
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด ถือว่าสูสีผลัดกันชนะไปฝั่งล่ะ 2 ครั้ง และเสมอ 1
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
โครเอเชีย (4-3-3): โดมินิค ลิวาโควิช, โยซิป ยูราโนวิช, โยซิป ซูตาโล่, โดมากอย วีด้า, อีวาน เปริซิซ, ลูก้า โมดริช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิซ, มาริโอ ปาซาลิช, อันเดรย์ ครามาริช และลูก้า อีวานูเซค
สเปน (4-2-3-1): อูไน ซิม่อน, เฆซุส นาบาส, โรบิน เลอ นอร์มองด์, อายเมริค ลาปอร์ก, ฆอร์ดี้ อัลบา, โรดรี้, มิเกล เมริโน่, เยเรมี่ ปีโน่, กาบี้, อันซู ฟาติ และอัลบาโร่ โมราต้า
ทรรศนะ: โครเอเชีย ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความเก๋า โดยเฉพาะการประสานงานของผู้เล่นแดนกลางที่ลงตัวสุด ๆ ส่วน สเปน เล่นได้ดีขึ้นโดยเฉพาะการครองบอลที่ทำได้ดีกว่าคู่ จังหวะการเข้าทำก็ถือว่าน่าสนใจ เป็นอีกหนึ่งเกมที่สูสี มีแววที่จะไม่จบใน 90 นาที
สกอร์ที่คาด: โครเอเชีย 1-1 สเปน
รอบชิงอันดับ 3
20.00น. เนเธอร์แลนด์ – อิตาลี
“อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ เจ้าภาพในรอบไฟนอลส์ โฟร์ พ่ายให้กับ “ตราหมากรุก” โครเอเชีย ในรอบรองชนะเลิศ 2-4 ทำให้ต้องมาชิงอันดับ 3 ชุดนี้คุมทัพโดย โรนัลด์ คูมัน ซึ่งก็ยอมรับว่าทีมของเขายังต้องปรับปรุงอีกเยอะ คาดว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง สเวน บ็อตมัน น่าจะได้รับโอกาสลงตัวจริงจับคู่กับ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค รวมไปถึงแดนกลางอย่าง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ที่จะคุมเกมร่วมกับ มาร์เทน เดอ รูน และแฟรงกี้ เดอ ยองก์ สามแนวรุกใช้ สตีเว่น เบิร์กไวจน์, โคดี้ กัคโป และชาบี ซิมมอนส์
ทางฝั่ง ทีมชาติอิตาลี พ่ายให้กับ “กระทิงดุ” สเปน มาเสียประตูในช่วงท้ายเกม 1-2 ชุดนี้ไม่มี อเลสซานโดร บาสโตนี่ ที่บาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร คาดว่า โรแบร์โต้ มันชินี่ จะกลับระบบจาก 3-5-2 กลับมาใช้ 4-3-3 ดร็อป เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ นั่งสำรองใช้ ราฟาเอล โตลอย จับคู่กับ ฟรานเชสโก้ อแซร์บี้ นอกนั้นอยู่กันครบ นำโดย นิโกโล่ บาเรลล่า, จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ, เฟเดริโก้ เคียซ่า, มาเตโอ เรเตกี และลอเรนโซ่ เปเญกรินี่
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด อิตาลี เหนือกว่าเยอะไม่แพ้เลยชนะได้ 3 และเสมอ 2
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
เนเธอร์แลนด์ (4-3-3): จัสติน ไบจ์โลว์, เดนเซล ดุมฟรีส์, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, สเวน บ็อตมัน, นาธาน อาเก้, มาร์เทน เดอ รูน, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, แฟรงกี้ เดอ ยองก์, ชาบี ซิมม่อนส์, โคดี้ กัคโป และสตีเว่น เบิร์กไวจน์
อิตาลี (4-4-3): จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, ฟรานเชสโก้ อแซร์บี้, ราฟาเอล โตลอย, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก, นิโกโล่ บาเรลล่า, จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ, เฟเดริโก้ เคียซ่า, มาเตโอ เรเตกี และลอเรนโซ่ เปเญกรินี่
ทรรศนะ: เนเธอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของ โรนัลด์ คูมัน ยังต้องปรับจูนอีกเยอะ ทั้งในเรื่องของจังหวะการเข้าทำและเกมรับที่เสียประตูค่อนข้างง่าย ส่วน อิตาลี ความผิดพลาดส่วนบุคคลทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ในนัดที่แล้ว ส่วนรูปเกมครึ่งหลังไม่ดีเลย เป็นสิ่งที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ ต้องแก้ไข ถือว่าสูสี แม้เนเธอร์แลนด์จะเล่นในบ้าน แต่ก็กินอิตาลียาก
สกอร์ที่คาด: เนเธอร์แลนด์ 1-2 อิตาลี
