7 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Sport

วิเคราะห์ฟันธงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (06-05-2023)

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำค่ำคืนวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2023 แมตช์เดย์ที่ 34 ของหลาย ๆ ทีม มีลงทำการแข่งขัน 5 คู่ด้วย แน่นอนว่าไฮไลท์อยู่ที่การเจอกันของสองทีมที่กำลังลุ้นแชมป์และหนีตายอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเปิดบ้านพบกับบอลเปลี่ยนโค้ชอย่าง “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด

21.00น. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ลีดส์ ยูไนเต็ด

เจ้าถิ่น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งลงเล่นในกลางสัปดาห์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาด้วยการเปิดรังถล่ม “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มา 3-0 แซง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง การลงเล่นเกมนี้จะทำให้ทั้งสองทีมแข่งเท่านั้น และมีโอกาสขยับหนีเป็น 4 แต้ม ปัญหาเดียวของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า คือต้องรอทดสอบความฟิตของ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพคนสำคัญว่าจะพร้อมลงเล่นได้หรือไม่ หากไม่ไหว ฆูเลี่ยน อัลบาเรซ น่าจะได้สตาร์ทแทน นอกนั้นขุมกำลังอยู่หลักกันครบ เอแดร์ซอน ที่ได้พักจะกลับมาเป็นตัวจริง เกมรุกมี แจ็ค กรีลิช ที่กำลังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจะขึ้นเกมทางซ้าย ส่วนหน้าเป้าไม่ใครต้านทาน เออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์ ที่เพิ่งทุบสถิติใหม่ยิงไป 35 ประตู ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายในฤดูกาลเดียว

ฝั่งผู้มาเยือน “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ทำการปลด ฆาบี้ กราเซีย เทรนเนอร์ชาวสเปนออกจากตำแหน่งพร้อมทีมงาน และผู้อำนวยการกีฬา ไปดึงเอาจอมเก๋าอย่าง “บิ๊กแซม” แซม อัลลาร์ไดซ์ เข้ามาคุมทีม ทำภารกิจหนีตายใน 4 เกมสุดท้าย ตอนนี้มี 30 คะแนน ทีมยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ หมดสิทธิ์ใช้งาน ไทเลอร์ อดัมส์, สจ๊วร์ต ดัลลาส และหลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า ส่วน เลียม คูเปอร์ ต้องรอเช็คความฟิต เกมรุกต้องฝากความหวังไว้ที่บรรดาแข้งที่มีความเร็วอย่าง แจ็ค แฮร์ริสัน, คริสเซนซิโอ้ ซัมเมอร์วิลล์ และวีลฟรีด ญอนโต้ โดยมี แพทริค แบมฟอร์ด เป็นตัวจบสกอร์  

สถิติการพบกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด แมนฯซิตี้ เหนือกว่าชนะได้ 3 เสมอ 1 และลีดส์ ยูไนเต็ด ชนะ 1  

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯซิตี้ (3-4-2-1): เอแดร์ซอน, มานูเอล อคานจี, รูเบน ดิอาซ, นาธาน อาเก้, ริยาด มาห์เรซ, จอห์น สโตนส์, โรดรี้, แจ็ค กรีลิช, อิลคาย กุนโดกัน, ฆูเลี่ยน อัลบาเรซ และเออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาลันด์

ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-4-2): อิลลาน เมสลิเย่ร์, ลุค อายลิ่ง, โรบิน ค็อค, แม็กซ์ โวเบอร์, จูเนียร์ ฟีร์โป้, แจ็ค แฮร์ริสัน, เวสตัน แม็คเคนนี่, มาร์ค โรก้า, คริสเซนซิโอ้ ซัมเมอร์วิลล์, วีลฟรีด ญอนโต้ และแพทริค แบมฟอร์ด

ทรรศนะ: ห่างกันเยอะทั้งในเรื่องของตัวผู้เล่น ความมั่นใจ และผลงานปัจจุบัน แมนฯซิตี้ กำลังเดินหน้ามองหาชัยชนะเพื่อการคว้าแชมป์ ยิ่งเล่นยิ่งเก่ง ส่วน ลีดส์ ยูไนเต็ด สถานการณ์จำเป็นที่ต้องทำให้พวกเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง การได้ แซม อัลลาร์ไดซ์ ที่มีประสบการณ์เข้ามา ไม่มีใครตอบได้ว่าจะดีหรือร้าย แต่ตามหลักบอลเปลี่ยนโค้ช แรก ๆ มักจะดี แต่คงไม่ใช่กับเกมนี้ เพราะคู่แข่งของพวกเขาคือ แมนฯซิตี้ เอาอะไรไปต้านไหว

21.00น. บอร์นมัธ – เชลซี

ทรรศนะ: “เดอะ เชอร์รีส์” เอเอฟซี บอร์นมัธ ทำผลงานได้ดีเกินคาดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา 7 เกมชนะได้ถึง 5 และแพ้ 2 เก็บได้ 15 คะแนน ทำให้พวกเขาทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 13 มี 39 คะแนน ว่ากันตามเชิงหากเกมนี้สามารถคว้าชัยชนะจะรอดตกชั้นทันที เจอกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่ห่วยจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไร แพ้ 6 เกมติด นับตั้งแต่ แฟรงค์ แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีม ถือว่าเป็นตราบาปในโปรไฟล์กุนซืออาชีพของเขา น่าเป็นห่วงว่าหากแยกทางกับทีมหลังจบฤดูกาล จะมีทีมไหนกล้าจ้างไปทำงาน และเกมนี้มีสิทธิ์ที่จะแพ้อีก เพราะเจ้าถิ่นกำลังเล่นได้อย่างมั่นใจ โดมินิค โซลันกี้ ซัดไป 3 ประตู 3 แอสซิสต์ จาก 7 เกม มีลุ้นยิงทีมเก่า

21.00น. ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ – คริสตัล พาเลซ

ทรรศนะ: เกมลอนดอน ดาร์บี้ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ปิดสวิตซ์ในการลุ้นท็อปโฟร์ของตัวเอง หลัง 4 เกมหลังเก็บได้แค่ 1 คะแนน โดน ลิเวอร์พูล แซงขึ้นไปอยู่อันดับ 5 แทน ซึ่งเกมนี้ยังคงมีปัญหาไร้ ฮูโก้ ญอริส, อิฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนตานคูร์ รวมไปถึง เอแมร์ซอน รอยัล โค้ชใหม่อย่าง ไรอัน เมสัน ยังหาชัยชนะไม่เจอ ดวลกับ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ของ “ปู่รอย” ที่มี 40 คะแนนแทบจะปล่อยจอยเข้าเกียร์ว่างได้แล้ว แถมแนวรุกยังคึกคักสุด ๆ เมื่อได้จอมเลื้อยอย่าง วีลฟรีด ซาฮา กลับมา เจ้าถิ่นถือว่าเล่นได้ดีในช่วง 2 เกมที่ เมสัน เข้ามาคุมทีม ก็ต้องเห็นใจเพราะเจอคู่แข่งอย่าง แมนฯยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล แต่เกมนี้เชื่อว่าเป็นโอกาสดีที่จะปลดล็อกคว้าชัยได้เสียที

21.00น. วูล์ฟแฮมป์ตัน – แอสตัน วิลล่า

ทรรศนะ: “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ของ ฆูเลน โลเปเตกี รั้งอันดับ 14 ของตารางมีอยู่ 37 คะแนน ต้องการอีกสัก 5 แต้ม ก็น่าจะอยู่รอดปลอดภัย แต่นัดล่าสุดเสียทรงบุกไปแพ้ ไบรท์ตัน แบบหมดสภาพนักศึกษา 6-0 ต้องเรียกสมาธิกลับคืนมาอีกครั้ง ดวลกับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ของอูไน เอเมรี่ ที่หมดสถิติไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกันไว้ที่ 10 เกม หลังบุกพ่าย แมนฯยูไนเต็ด แบบหวุดหวิด 0-1 ถือว่าเป็นเกมที่สูสี กุนซือของทั้งสองทีมระดับวามเก๋าทันกัน และต่างก็ต้องการคะแนนเพื่อเป้าหมายที่วางเอาไว้ โอกาสออกเสมอมีค่อนข้างสูง

23.30น. ลิเวอร์พูล – เบรนท์ฟอร์ด

ทรรศนะ: “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กำลังมั่นใจสุด ๆ 7 เกมหลังไม่แพ้ใคร แถมยังคว้าชนะได้ 5 เกมติด มีลุ้นท็อปโฟร์เล็ก ๆ ล่าสุดเฉือน ฟูแล่ม มา 1-0 เกมนี้ไม่มี ธีอาโก้ อัลคันทาร่า, นาบี เกอิต้า และโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่ยังเดี้ยง เจอกับ “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด ที่อยู่ดี ๆ ก็กลับมาคึกชนะ 2 เกมรวด โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่ทำแสบใส่ ฟอเรสต์ ได้สองประตูพลิกแซงในช่วงท้ายเกม แน่นอนว่าความได้เปรียบและทุกอย่างนั้ยอยู่ที่ ลิเวอร์พูล ปัญหาของพวกเขาแนวรับที่เสียประตูตลอด เพิ่งจะมาเก็บคลีนชีตในนัดที่แล้ว เชื่อว่า “หงส์แดง” จะเก็บ 3 แต้ม แต่อาจจะเสียประตู  

ฟันธงลงสกอร์

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด

บอร์นมัธ 2-1 เชลซี    

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 2-1 คริสตัล พาเลซ

วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1 แอสตัน วิลล่า

 ลิเวอร์พูล 3-1 เบรนท์ฟอร์ด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *