ก่อนอื่นคือ….ใครจำเหตุการณ์นี้ได้บ้าง อยู่ที่ไหนตอนนั้น อายุเท่าไหร่ ได้ดูบอลคู่นี้หรือไม่…รบกวนแจ้ง🙏

🟢…..13 มีนาคม ถ้าวันนี้เขายังอยู่ “อันเดรส เอสโคบาร์” จะมีอายุครบ 56 ปี 🕊️

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2510 หรือ ค.ศ.1967 เขาเติบโตในครอบครัวชนชั้นกลาง และเข้าเรียนที่ Colegio Calasanz ก่อนจะจบการศึกษาจาก Instituto Conrado González

ไม่ว่าจะเรียนที่ไหน อันเดรส จะเข้าร่วมทีมฟุตบอลของโรงเรียนที่นั่น ก่อนที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ดาริโอ เอสโคบาร์ พ่อของเขาเป็นนายธนาคาร เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เล่นฟุตบอลแทนที่จะเตะกันอยู่บนท้องถนนซานติอาโก้

เขาถูกลอบสังหารโดยแก๊งค้ายาเมเดยิน ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2537 หรือ ปีบอลโลก 1994 หลังจากทำเข้าประตูตัวเองในเกมกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งนำไปสู่การตกรอบฟุตบอลโลกของโคลอมเบีย 🇨🇴

มีรายงานว่าฆาตกรพูดคำว่า “GOAL” หลังจากกระสุน 6 นัดเข้าที่ร่างของเขา…..

……ย้อนกลับไปกับโศกนาฎกรรมที่น่าเศร้าแห่งฟุตบอลโลก เกิดขึ้นเมื่อปี 1994

อันเดรส เอสโคบาร์ ปราการหลังทีมชาติโคลอมเบีย สังเวยชีวิตเมื่อทีมตกรอบ!

อันเดรส เขาสกัดบอลพลาดเข้าไปตุงตาข่ายตัวเอง ในเกมกับ สหรัฐ เป็นเหตุให้ โคลอมเบีย ต้องแพ้ 1-2 และตกรอบแรกบอลโลกไปอย่างพลิกล็อค ทั้งที่พวกเขาเป็นเต็งระดับต้น ๆ ของรายการ

เพื่อนร่วมทีมพยายามเตือน อันเดรส เอสโคบาร์ ว่าอย่าเพิ่งเดินทางกลับประเทศจะเป็นการดีกว่า

แต่ อันเดรส ไม่คิดว่าจะมีอะไรร้ายแรง

การกลับบ้าน คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ถ้าหากที่บ้านไม่ปลอดภัยแล้ว ที่อื่นก็คงจะไม่น่าจะอยู่ได้

หลังจากเดินทางกลับบ้านได้ 5 วัน คือวันที่ 2 กรกฏาคม 1994 นักบอลเจ้าของฉายา “The Gentleman” ที่ทำงานต่อสู้เพื่อสังคมของประเทศ ได้นัดกับเพื่อชวนกันไปดื่มที่บาร์แห่งหนึ่งแถบ เอล โปบลาโต้ ชานเมืองเมเดยิน

หลังจากแยกกัน ปรากฏว่า มีชาย 3 คนรออยู่ที่รถของ อันเดรส ก่อนจะใช้ปืนขนาด.38 คาลิเบอร์ กระหน่ำยิง 6 นัด

อันเดรส เอสโคบาร์ นอนจมกองเลือดอยู่ที่ลานจอดรถ ก่อนจะไปเสียชีวิตในอีก 45 นาทีต่อมาที่โรงพยาบาล เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว

…..ในคืนต่อมา มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยนั่นคือ “อุมแบร์โต้ กาสโตร เมนเดซ” มือปืนระดับบอดี้การ์ดของแกงค์ค้ายา ที่แค้นเพราะเสียพนันบอล

อุมแบร์โต้ ถูกตำรวจจับกุม ซึ่งหลายคนรู้ว่า เขาเป็นบอดี้การ์ด และคนขับรถของพี่น้อง ตระกูลกัลล่อน(Gallon) ซึ่งเป็นอาชญากรผู้ทรงอำนาจและผู้ค้ายาเสพติด

มีรายงานว่าพี่น้องตระกูลกัลล่อน สูญเสียเงินจำนวนมาก จากการเดิมพันการแข่งขันของโคลอมเบีย ในฟุตบอลโลก 1994

อัยการ เชื่อ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ หรือเชื่อแต่ไม่พยายามพิสูจน์ ว่า พี่น้องกัลลอน สั่งให้ อุมแบร์โต้ สังหาร อันเดรส เอสโคบาร์

…..การเสียชีวิตครั้งนี้ ฟานซิสโก มาตูราน่า กุนซือของโคลอมเบีย บอกว่า อาจไม่ใช่เรื่องการทำเข้าประตูตัวเองในบอลโลก แต่มาจากเหตุผลเรื่องปัญหาภายในประเทศที่วุ่นวายมาก โดยเฉพาะของแอตเลติโก นาซิอองนาล ต้นสังกัดของเขา

มีคำกล่าวถึงเหตุการณ์สังหารโหดครั้งนี้ว่า “เรื่องการสังหารนักฟุตบอล จะไม่มีวันเกิดขึ้นหากมันอยู่ในยุคสมัยของ ปาโบล เอสโคบาร์”!!!

…..ปาโบล กับ อันเดรส ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พ้องกันตรงสนามสกุล “เอสโคบาร์”

…..เดือนธันวาคมปี 1993 ก่อนหน้าบอลโลก เวอร์ชั่นสหรัฐ จะเริ่มต้นขึ้นไม่ถึงครึ่งปี “ปาโบล เอสโคบาร์” พ่อค้ายาเสพติด และธุรกิจนอกกฏหมายชาวโคลอมเบีย โดนตำรวจวิสามัญ ที่เมืองเมเดยิน

ตอนนั้น ปาโบล ใส่รองเท้าสตั๊ดอยู่ด้วย!!!

การจากไปของเขาได้ทิ้งช่องว่างที่ต้องถูกเติมเต็มโดยการนองเลือดระหว่างแก๊งค้ายา กับทุก ๆ วงการ เพราะตัวเขาเป็นได้หมด

ทั้งฆาตกร, คนติดสินบน, พ่อพระ และนักต้มตุ๋น

เจ้าของฉายา “ราชาแห่งโคเคน” แาโบล เอสโคบาร์ เป็นอาชญากรที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีมูลค่าสิทธิประมาณ 30 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ปาโบล คือคนบ้าบอล ทำทีมฟุตบอลมากมาย แต่มีอิทธิพลสูงมากในด้านมืดของประเทศ

จึงเป็นที่มาของคำว่า อาชญากรผู้คลั่งไคล้ฟุตบอล แต่เมื่อไม่มีเขา ก็ไม่มีใคาคุ้มครองฟุตบอลได้เลย แม้กระทั่งคนมีสี……..

…..อุมแบร์โต้ มือสังหาร อันเดรส เอสโคบาร์ ถูกตัดสินจำคุก 43 ปี แต่ติดไปเพียง 11 ปีก่อนถูกปล่อยตัว เพราะประพฤติดี แต่….

แต่พี่น้องตระกูลกัลล่อน ถูกมองว่า อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากมีความสัมพันธ์ทางการเมืองที่มีอำนาจ

ใช้เวลาสองสามเดือนเท่านั้นเพื่อพยายามปกปิดการฆาตกรรมระดับโลกแบบนี้

….งานศพของ อันเดรส เอสโคบาร์ มีชาวโคลอมเบียหลายพันคน ซึ่งเดินตามรถที่บรรทุกศพของเขาเดินไปที่สุสานเป็นระยะทาง 10 ไมล์

เมื่อเขาถูกฝัง รอบที่ 2 ของฟุตบอลโลก 1994 เพิ่งเริ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา

เรื่องนี้จบลงด้วยกระสุนปืน, ความไม่ชอบมาพากล และความเศร้า

ไม่มีทางกลับไปแก้ไข แต่ก็ไม่มีการสืบสวนใด ๆ ที่ย้อนกลับไปโศกนาฏกรรม ไม่มีองค์กรอะไร หรือ บุคคลที่สาม มาตามต่อในเรื่องนี้

เสมือนชีวิตของเขาเหมือนถูกกำหนดโดยความตายของเขาในหลาย ๆ ด้านและหลีกเลี่ยงไม่ได้

อยากลองเห็นเขาเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ บางที ฟุตบอลของเด็ก ๆ ด้อยโอกาสในโคลอมเบีย อาจจะดีกว่า

ความอยุติธรรม คือนิพพานสำหรับเรื่องนี้…..

โลกฟุตบอลไม่เคยลืมฝันร้ายที่กลายเป็นจริงในครั้งนั้นเลย

บีแหลมสิงห์™️✍🏻