6 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Story

#สตอรี่สีแดง นักบอลล้านปอนด์คนแรกของลิเวอร์พูล

…..18 มกราคมของทุกปี เป็นวันเกิดของนักบอลคนหนึ่งที่น้อยคนนักจะทำแบบเขาได้

สวมเครื่องแบบทั้ง แมนฯยู, ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน และแมนฯซิตี้!!!!!

………..ย้อนไปปี 1987 เมื่อ เอียน รัช เซ็นสัญญาไปอยู่กับ ยูเวนตุส(หรือ จูเวนตัส ตอนนั้น) ในราคา 3.2 ล้านปอนด์ ทำให้ เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือลิเวอร์พูล ต้องคิดค้นวิธีในเกมรุกใหม่ เพราะที่มีอยู่อย่าง พอล วอลช์ ไม่เพียงพออย่างแน่นอน

ไม่เพียงแต่ซื้อเท่านั้น หนนี้ถือเป็นการ”ปฏิวัติแดงแห่งแอนฟิลด์”อีกครั้งเลยทีเดียว

เคนนี่ ดัลกลิช เข้าไปลุยตลาด เปลี่ยนโฉมหน้าเกมรุกของทีม

ไม่ได้รอให้จบซีซั่น ทีมได้จัดการเซ็น จอห์น อัลดริดจ์ กองหน้าที่เกิดที่การ์สตัน ในเมืองลิเวอร์พูล แต่เป็นชาวสาธารรัฐไอร์แลนด์ จาก อ็อกซ์ฟอร์ด ในสนนราคา 750,000 ปอนด์ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 1987 หรือช่วงกลางซีซั่น

ทุ่มเงิน 900,000 ปอนด์ ซื้อตัวปีกซ้ายจากวัตฟอร์ด นั่นคือ จอห์น บาร์นส์ เจ้าฉายา “ปีกนิลกาฬ”

ในฝั่งขวา ได้เติม เรย์ เฮาจ์ตัน จาก “ไอ้หัวกระทิง” อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ในราคา 825,000 ปอนด์ เขาเป็นชาวไอริช

……..จากนั้นปฏิบัติการณ์ตามล่า “หมายเลข 7 คนใหม่” จึงดำเนินต่อไป เพราะยังไม่มีใครเหมาะสม

ตอนนั้นกองหน้าของทีมนอกจาก จอห์น อัลดริดจ์ ก็มีอีก 3 คน คือ พอล วอลช์, อลัน เออร์ไวน์ และจอห์น ดูร์นิน

ทำให้ “คิง เคนนี่” ต้องตัดสินใจอีกครั้ง…………สำคัญมากด้วย เพราะตำแหน่งนี้คือตัวแทนของเขาเอง!!!

เขาตัดสินใจไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป้าหมายอยู่ที่ถิ่นไทน์ไซด์ เนื่องจากหมายเลข 7 ในตำนานของทีม ก็คือ “คิง เคฟ” เควิน คีแกน คือคนที่โลกจดจำ ต่อด้วยตัวของ เคนนี่ ดัลกลิช เอง และเมื่อเขาแทบจะไม่ได้ลงสนามอีกแล้ว

ทำให้ต้องมีตัวแทนที่ใช่

ดังนั้นเช็คสั่งจ่ายจำนวน 1,900,000 ปอนด์ เพื่อเป็นค่าตัวของ ดาวเตะที่มีส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 8 จากนอร์ทแธมเบอร์แลนด์

********************

ชื่อว่า “ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์”

********************

จากแววแล้ว “เบียร์โด้” ไร้วี่แววว่าจะเป็นดาวดัง เมื่อต้องพเนจรไปเล่นที่แคนาดา ถึงสองรอบ เคยอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด แต่ไม่เคยลงสนาม กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีกับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด หลังจากย้ายกลับมาจากอเมริกาเหนือ ด้วยค่าตัวเพียง 150,000 ปอนด์

“เบียร์โด้” ถูกเฝ้ามองจากหลายต่อหลายทีม หนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคที่ทั้งในยุคของ รอน แอ็ตกินสัน ผู้จัดการทีมจอมโอ่อ่า มาถึงยุคของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สมัยที่ยังไม่ได้ประดับยศอัศวิน โดยเฉพาะการที่ติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลก ปี 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก

“เฟอร์กี้” เคยยื่นซื้อ ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์ อย่างเป็นทางการด้วยราคาที่”มากกว่าลิเวอร์พูล” นั่นคือ 2 ล้านปอนด์

แต่ถูกปฏิเสธแบบสิ้นเยื่อขาดใยจาก วิลเลี่ยม แม็คฟอล กุนซือของนิวคาสเซิ่ล ผู้มีส่วนสำคัญในการชุบชีวิตการเป็นนักบอลอาชีพของ เบียร์ดสลี่ย์

“ถ้า แมนฯยูไนเต็ด มาขอซื้อในราคา 3 ล้านปอนด์….ผมก็ไม่ขาย ปีเตอร์ ให้กับพวกเขา!!!!!!” คำพูดอันนี้ เซอร์เฟอร์กี้ ได้เขียนไว้ในหนังสือประวัติของเขาว่า ได้รับคำตอบจาก วิลเลี่ยม แม็คฟอล มาแบบนี้จริงๆ

ลงท้ายกลายเป็น “หงส์แดง” ที่ได้นักเตะหมายเลข 7 คนใหม่ที่ปรารถนา ในราคาเป็นสถิติของสโมสร 1.9 ล้านปอนด์

เป็นการข้ามผ่านและก้าวกระโดดหนีทุก ๆ สถิติในการซื้อของทีมไปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เนื่องจากทุกดีลก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีนักเตะคนไหนของลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ ค่าตัวถึง 7 หลัก หรือว่าล้านปอนด์เลยแม้แต่รายเดียว!!!

เบียร์ดสลี่ย์ กลายเป็นคนสำคัญอย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีการเล่นที่ฉลสดเป็นกรด เลือกจ่ายก่อนยิง และคอยวิ่งสอดซ้อนกับ บาร์นส์ อย่างลงตัว

เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีม และผนึกกำลังกันจนได้รับฉายาปีนั้นว่า “แซมบ้าซีซั่น”

3 ปีสุดท็อป เบียร์ดสลี่ย์ ได้แชมป์ลีกดิวิชั่น 1 ปี 1988, เอฟเอ คัพ 1989 และได้ดิวิชั่น 1 อีกทีปี 1990

ทุกปีต่างเฉี่ยวเฉียดกับการได้ดับแชมป์ทั้งสิ้น!!!!

พอหมดยุคของ “คิง เคนนี่” ทำให้เขาต้องย้ายไปอยู่กับ “ทอฟฟี่เมน” เอฟเวอร์ตัน เพราะมี ดีน ซอนเดอร์ส มาแทน

ซึ่ง เบียร์ดสลี่ย์ ยังยอดเยี่ยมต่อเนื่อง แม้กระทั่งช่วงที่เขากลับไปอยู่นิวคาสเซิ่ล อีกครั้ง ก็ยังโดดเด่น

ก่อนจะไปอยู่ แมนฯซิตี้ ในช่วงเวลาสั้น ๆ แบบยืมตัว ตอนนั้นแกย้ายไปสังกัด โบลตัน

….หากจะนับตำนานหมายเลข 7 ที่แท้จริงของลิเวอร์พูล นับกันได้คือ “ยุคที่สาม” ต่อจาก “คิงเคฟ” เควิน คีแกน และ “คิง เคนนี่” เคนนี่ ดัลกลิช

หมดยุคนั้นมา เบอร์ 7 หงส์แดงหาทำยายากจริง ๆ

กล่าวคือ ซอนเดอร์ส, คลัฟน้อย, แม็คมานามาน(เก่งตอนเบอร์17), แฮร์รี่ คีลล์, วลาดี้ ซมิเซอร์ เรื่อยมาจนกระทั่งยุคของ หลุยส์ ซัวเรซ ให้พอหายคิดถึง “เบียร์โด้” ได้บ้าง

กระทั่งปัจจุบัน เบอร์ 7 คือ หลุยส์ ดิอาซ ที่รับต่อจาก เจมส์ มิลเนอร์ ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วยาม

กว่าจะไปถึงจุดที่เป็นมาตรฐานจาก เบียร์ดสลี่ย์

เขีบนมาทั้งหมด ส่วนหนึ่งมากจากหนังสือ #สตอรี่สีแดง📕 ที่ผมเขีบนวางจำหน่ายปี 2019 อยากได้ก็ทักมานะจ๊ะ

แต่ไม่แจกนะ 🤣🤣🤣🤣🤣

แฮปปี้เบิร์ธเดย์ เบียร์ดสลี่ย์ อายุครบ 63 ขวบวันนี้จ้า🥰✌️🎉

#บีแหลมสิงห์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *