การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เข้าสู่ชวงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล สัปดาห์นี้ในคืนวันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2023 มีลงทำการแข่งขัน 5 คู่ด้วยกันจากโปรแกรมเดิมที่จะเตะ 6 คู่ แต่มีเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือกมาครั้นด้วย ทำให้เกมระหว่าง แมนฯยูไนเต็ด พบกับ เชลซี ต้องถูกเลื่อนออกไป
21.00น. ลิเวอร์พูล – น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ไฮไลท์สำคัญของสัปดาห์นี้อยู่ที่การดิ้นรนหนีตกชั้นของบรรดาทีมจากโซนท้ายตาราง เริ่มจาก 21.00น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
เจ้าถิ่นเริ่มคืนฟอร์มกลับมาปลดล็อกคว้าชัยชนะนัดแรกหลังจากที่ไม่ชนะใครมา 5 เกมติด ด้วยการบุกไปถล่ม “ยูงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด ถึงเอลแลนด์ โร้ด 6-1 สามแนวรุกอย่าง ดีโอโก้ โชต้า, โคดี้ กัคโป และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงกันครบ และยังได้ หลุยส์ ดิอาซ ที่บาดเจ็บไม่ได้เล่นให้กับทีมมายาวนานถึง 6 เดือนกลับมาลงสนามด้วย ถือเป็นแนวโน้มที่ดี ส่วนเกมนี้ยังไม่มี นาบี เกอิต้า และสเตฟาน บายเซติช ที่บาดเจ็บ นอกนั้นอยู่ครบ มีความเป็นไปได้ว่าจะยึดไลน์อัพชุดเดิม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และเคอร์ติส โจนส์ คุมแดนกลาง สามแนวรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป และดีโอโก้ โชต้า
ฝั่งทีมเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ภายใต้การคุมทีมของ “เฮียง่วง” สตีฟ คูเปอร์ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากสุด ๆ ไม่ชนะใครมา 10 เกม เสมอ 3 แพ้ไป 7 ทำให้พวกเขารูดลงมารั้งอันดับ 18 ของตาราง ซึ่งเป็นโซนอันตรายต่อการตกชั้น เกมล่าสุดเปิดบ้านพ่ายคารังให้กับ แมนฯยูไนเต็ด 0-2 เกมนี้ยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ คริส วู้ด, วิลลี่ โบลี่, เชคู คูยาเต้ และดีน เฮนเดอร์สัน ลงไม่ได้ ทีมไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากนักเกมรุกฝากความหวังไว้ที่ 3 ตัวบนอย่าง มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, ไตโว่ อโวนิยี่ และแบรนแนน จอห์นสัน
ทรรศนะ: ไม่รู้ว่านักที่แล้วคู่แข่งอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด นั้นห่างชั้นเกินไปหรือ “หงส์แดง” ท็อปฟอร์ม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พวกเขากลับมาเล่นได้อย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ความมั่นใจของนักเตะหลาย ๆ คนเริ่มกลับมา เจอกับ ฟอเรสต์ ที่กำลังย่ำแย่ไม่มีทางเลือกต้องกลับไปแบบมีคะแนน เพื่อเพิ่มโอกาสในการลุ้นหนีตกชั้น แต่เกมรุกและเกมรับของทีมเยือนค่อนข้างมีปัญหา 10 เกมหลังยิงได้แค่ 7 และเสียไปถึง 21 ประตู ดูแล้วรอดยาก
18.30น. ฟูแล่ม – ลีดส์ ยูไนเต็ด
ทรรศนะ: ฟูแล่ม ออกอาการเป๋อย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา หลังตกรอบเอฟเอ คัพ ที่พ่ายให้กับ แมนฯยูไนเต็ด นักเตะคนสำคัญอย่าง อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช และกุนซือมาร์โก ซิลวา ต่างก็โดนแบนห้ามคุมทีมข้างสนามมาหลายเกม ต้องดวลกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ห่วยพอกัน 2 เกมหลังเล่นในบ้านโดนคู่แข่งถลุงไปถึง 11 ประตู แต่ข่าวดีคือการได้ แม็กซ์ โวเบอร์ กลับมา น่าจะช่วยให้เกมรับดีขึ้น คู่นี้เดาทางยาก แต่ฟูแล่มยังดูดีกว่า เพราะเพิ่งเรียกความมั่นใจด้วยการบุกไปอัดเอฟเวอร์ตันมา พวกเขาน่าจะเฉือนได้
21.00น. เลสเตอร์ ซิตี้ – วูล์ฟแฮมป์ตัน
ทรรศนะ: เลสเตอร์ ซิตี้ เดิมพันครั้งสำคัญในการอยู่รอดบนลีกสูงสุดด้วยการตั้ง ดีน สมิธ เข้ามาคุมทีม ประเดิมเกมแรกไปแล้วด้วยการแพ้แมนฯซิตี้ 3-1 ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน ผลงานดีวันดีขึ้นไม่แพ้ใครมา 3 เกมติด แถมยังชนะ 2 นัดหลังสุด ขออีกไม่กี่คะแนนโอกาสอยู่รอดของพวกเขามีสูง เจ้าถิ่นไม่มี ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ดาวซัลโวประจำทีมที่ยิงไป 10 ประตู คงยากหน่อยที่จะเอาชนะในเกมนี้ เชื่อว่า “วูล์ฟส” น่าจะบุกไปเก็บได้อย่างน้อย 1 คะแนน
21.00น. คริสตัล พาเลซ – เอฟเวอร์ตัน
ทรรศนะ: ผลงานระดับมาสเตอร์พีชจริง ๆ สำหรับการกลับมาคุมทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน 3 เกมชนะได้หมด แถมเกมรุกก็ดูจัดจ้านเล่นได้อย่างมีชีวิตชีวา แม้จะไม่มีจอมเลื้อยอย่าง วีลฟรีด ซาฮา แต่เด็กรุ่นใหม่อย่าง เอเบเรซี่ เอเซ่ และไมเคิ่ล โอลิเซ่ ต่างก็สร้างความแตกต่างให้กับทีมได้ เจอกับเอฟเวอร์ตัน ที่ไม่เพิ่งพ่ายคารังต่อฟูแล่ม สถานการณ์ของพวกเขาเริ่มไม่น่าไว้วางใจ แต่มีข่าวดีอาจจะได้ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิ่น หัวหอกคนสำคัญกลับมา แต่ดูแล้วการไปเยือน พาเลซ นั้นไม่ง่าย ยิ่งช่วงนี้เจ้าถิ่นกำลังมั่นใจ อะไร ก็หยุดไม่อยู่
21.00น. เบรนท์ฟอร์ด – แอสตัน วิลล่า
ทรรศนะ: เจ้าถิ่น “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด เหมือนว่าพวกเขากำลังอยู่ในช่วงปล่อยจอย ลอยตัวเพราะไม่ต้องมาดิ้นรนหนีการตกชั้น หลังเสียสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันในลีก 12 เกม ให้กับ เอฟเวอร์ตัน พวกเขาก็ฟอร์มรูดมหาราชทันที กลายเป็นว่าตอนนี้ไม่ชนะใครมา 5 เกมติด แถมยังเป็นการแพ้ 3 นัดรวดด้วย ดวลกับ แอสตัน วิลล่า ที่กำลังมั่นใจสุด ๆ หลังได้ อูไน เอเมรี่ เข้ามาคุมทีมลุ้นไปบอลยุโรปชนะมา 5 เกมติด และเพิ่งจัดหนักใส่ทีมแกร่งอย่าง นิวคาสเซิ่ล มา 3-0 แม้ เบรนท์ฟอร์ด จะเล่นในบ้าน แต่ดูเหมือนว่าความกระหายของพวกเขาจะลดน้อยลงไป เชื่อว่า แอสตัน วิลล่า ดูดีกว่าน่าจะบุกไปเก็บ 3 แต้มได้
ฟันธงลงสกอร์
ฟูแล่ม 2-1 ลีดส์ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล 4-1 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 วูล์ฟแฮมป์ตัน
คริสตัล พาเลซ 2-0 เอฟเวอร์ตัน
เบรนท์ฟอร์ด 0-1 แอสตัน วิลล่า
