7 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Story

สะพัดแสนล้าน!ทุบสถิติซื้อขายบอลผู้ดี

สถิติมีไว้ทำลาย เมื่อตลาดนักเตะถล่มทุกบันทึกอีกครั้ง หลังจากช่วงฤดูร้อน 2023 ที่วุ่นวาย เราได้เห็นสโมสรในพรีเมียร์ลีกทุ่มเงิน 2.36 พันล้านปอนด์ หรือกว่าแสนล้านบาท สำหรับผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทัพ

การใช้จ่ายรวมกันของ 20 สโมสรในช่วงเปิดตลาดทำลายสถิติการใช้จ่ายก่อนหน้านี้ที่ 1.92 พันล้านปอนด์จากซัมเมอร์ที่แล้ว ถึง 440 ล้านปอนด์ ตามรายงานของ Deloitte บริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน

สโมสรในพรีเมียร์ลีกใช้เงินถึง 255 ล้านปอนด์ในวันกำหนดเส้นตาย หรือ เดธไลน์เดย์ มากกว่าเดิมถึงสองเท่าช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม หากเรานับเฉพาะการเปิดตลาดตลอดกาลนั้น ซัมเมอร์ฤดูกาล 2023-24 นี้ มีการจับจ่ายใช้สอง เป็นอันดับที่ 2 รองจากสถิติฤดูกาลที่แล้ว ที่มีการซื้อกันเละเทะถึง 2.73 พันล้านปอนด์

ข้อมูลที่น่าสนใจแบ่งเป็นข้อ ๆ ดังนี้

1.การย้ายทีมในพรีเมียร์ลีกคิดเป็น 48% ของการใช้จ่ายทั้งหมดในลีกยุโรป ‘ห้าลีกใหญ่’ – ลาลีกา, กัลโช่, บุนเดสลีกา และลีกเอิง 1

2.สโมสรในพรีเมียร์ลีกได้รับเงิน 550 ล้านปอนด์จากสโมสรในต่างประเทศ มากกว่าสถิติก่อนหน้านี้ที่เคยได้รับ 210 ล้านปอนด์ในช่วงฤดูร้อนปี 2022

3.มีแค่ ลา ลีกา ของสเปน ที่ใช้จ่ายต่ำกว่าเดิม ที่เหลืออีก 4 ลีก ถือว่าทะลุจากเดิมทั้งหมด

4.มีเพียงสองลีก คือ พรีเมียร์ลีก กับ ลีก เอิง ที่ยอดเฉลี่ยออกมา รายจ่ายมากกว่ารายรับ

5.มีการย้ายทีมในพรีเมียร์ลีก 13 ครั้งที่มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านปอนด์

จาก 5 ข้อที่น่าสนใจนี้ ทิม บริดจ์ หุ้นส่วนหลักในกลุ่มธุรกิจกีฬาของ Deloitte กล่าวว่า การใช้จ่ายเป็นประวัติการณ์ในฤดูร้อนครั้งที่ 2 ติดต่อกันของสโมสรในพรีเมียร์ลีก ชี้ให้เห็นว่าการเติบโตของรายได้ปีต่อปีอาจกลับมาอีกครั้งหลังจากการระบาดใหญ่เมื่อปี 2020

“มีถึง 14 สโมสร หรือ เกือบ 3 ใน 4 ของสโมสรในพรีเมียร์ลีก ที่ใช้เวลาช่วงซัมเมอร์นี้มากกว่าครั้งก่อน นั่นคือการเข้าสู่ตลาดที่สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น

“ยังคงมีแรงกดดันต่อสโมสรต่างๆ ในการแสวงหาผู้มีความสามารถระดับสูงเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การซื้อนักบอล ไม่ว่าจะเป็นการผ่านเข้ารอบยุโรป หรือเพียงแค่รักษาตำแหน่งในพรีเมียร์ลีก”

น่าสนใจก็คือ มีการซื้อขายในราคาสุดขั้วกทะลุสามหลัก หรือ 100ล้านปอนด์

มีการย้ายทีมสองครั้งที่มีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดย เชลซี เซ็นสัญญากับ มอยเซส ไกเซโด้กองกลางจากไบรท์ตันด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ซึ่งอาจเพิ่มเป็นสถิติสโมสรในอังกฤษที่ 115 ล้านปอนด์

ขณะที่ อาร์เซนอล เซ็นสัญญากับ เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษจากเวสต์แฮมด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์บวกโบนัส 5 ล้านปอนด์

ทีมใหญ่จ่ายเงินกันเลยหลัก 100 ล้านปอนด์ แชมป์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสริมทัพ 4 คน กองหลัง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ในราคา 77 ล้านปอนด์, ปีก เฌเรมี่ โดกู จาก แรนส์ ราคา 55.4 ล้านปอนด์, มาเตโอ โควาซิซ กองกลางที่มาจากเชลซี ในราคา 25 ล้านปอนด์ และปิดตลาดเดธไลน์กับ มาเตอุส นูเนส จากวูล์ฟส์ 53 ล้านปอนด์

คู่แข่งร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเซ็นสัญญากับราสมุส ฮอยจ์ลุนด์ กองหน้าเดนมาร์ก ด้วยค่าตัว 72 ล้านปอนด์, เมสัน เมาท์ จากเชลซี 55 ล้านปอนด์ และอองเดร โอนาน่า 43.8 ล้านปอนด์

ในขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ดูจะเบาไปหน่อย เมื่อคว้าตัว ซานโดร โตนาลีกองกลางอิตาลีด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ จากเลสเตอร์ด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์ และติโน่ ลิฟราเมนโต้ 35 ล้านปอนด์

อาร์เซนอลรองแชมป์พรีเมียร์ลีกปีที่แล้วได้เพิ่มข้อตกลงข้าวโดยการซื้อ ไค ฮาแวร์ตซ์ ราคา 65 ล้านปอนด์และ เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์ ในราคา 34 ล้านปอนด์

ลิเวอร์พูล เสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งกองกลางทั้งหมด โดมินิค โซโบสไล จากแอร์เบ ไลป์ซิก 60 ล้านปอนด์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จากไบรท์ตัน 35 ล้านปอนด์, วาตารู เอ็นโดะ จากสตุ๊ตการ์ท 16.2 ล้านปอนด์ และไรอัน กราเฟนแบร์ช 34.3 ล้านปอนด์

ส่วนแชมป์ซื้อไม่มีใครเกิน เชลซี

นี่เป็นตลาดครั้งที่สามของเชลซี ในยุค ท็อดด์ โบห์ลี่ และการใช้จ่ายของพวกเขาไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง

สโมสรในลอนดอนใช้เงินมากกว่า 380 ล้านปอนด์เพื่อซื้อผู้เล่น 11 คนในช่วงตลาดซื้อขายรอบนี้ ซึ่งมากกว่าทีมอื่นๆ ในยุโรป การใช้จ่ายในช่วงซัมเมอร์ที่สูงที่สุดทุบทุกสถิติสโมสรใดๆ ในโลก

ก่อนหน้านี้คือการใช้จ่ายของเรอัล มาดริด 292 ล้านปอนด์ในปี 2019

ค่าใช้จ่ายของเชลซีสำหรับผู้เล่นในช่วงตลาดซื้อขายทั้ง 3 รอบนับตั้งแต่ที่โบห์ลี่เข้ามารับหน้าที่ตอนนี้มีมูลค่าเกือบ 1 พันล้านปอนด์

มีเครื่องหมายคำถามว่า เชลซี จะรักษากฎเกณฑ์ทางการเงินได้อย่างไร?

การใช้จ่ายของพวกเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ได้รับการชดเชยบางส่วนจากการขายนักเตะจำนวนมาก โดยมีผู้เล่น 9 จาก 14 คน คนที่ออกจากข้อตกลงถาวร รวมถึง ฮาเแวร์ตซ์ ไปอาร์เซนอล และเมสัน เมาท์ไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวเริ่มต้น 55 ล้านปอนด์

ตามสถิติการเงินล่าสุด พวกเขาใช้ไปเกือบ ๆ 400 ล้านปอสนด์ ได้คืนมากกว่า 240 ล้านปอนด์ ยอดหักลบกลบนี้ ลบอยู่ที่ตัวเลขระหว่าง 160-170 ล้านปอนด์

หากจะนับเฉพาะการคว้าตัวในวันสุดท้าย 255 ล้านปอนด์

ข้อตกลงพรีเมียร์ลีกที่ใหญ่ที่สุดในวันเส้นตาย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซ็นสัญญากับมาเตอุส นูเนส กองกลางชาวโปรตุเกส ในราคา 55 ล้านปอนด์ ซึ่งแชมป์พรีเมียร์ลีกยังขาย โคล พาลเมอร์ ให้กับเชลซีด้วยราคา 40 ล้านปอนด์

กลายเป็น “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มาจาก “ท็อปทีม” ทื่ได้นักบอลเข้ามาเสริมทีมมากที่สุด แต่เป็นการยืม 2 และเซ็นฟรีอีก 1 นั่นคือการคว้าตัว อัลไต บายินดีร์ ผู้รักษาประตูจา

กเฟเนร์บาห์เช่ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์, โซฟียาน อัมราบัต กองกลางโมร็อกโก ที่ยืมตัวมาจากฟิออเรนติน่า, เซร์คิโอ เรกิลอน แบ็กซ้ายที่ยืมจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และจอนนี่ อีแวนส์ นักบอลฟรีเอเยนต์ที่ตกลงสัญญรากันใหม่ และลงเอยที่การเซ็นสัญญาหนึ่งปี

“เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เป็นสโมสรที่คึกคักที่สุด โดยเซ็นสัญญานักเตะ 7 คน จากทั้งหมด 14 คนในซัมเมอร์นี้ อาทิ อิบราฮิม ซังกาเร่ กองกลางจากพีเอสวี 3 ล้านปอนด์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ปีกจากเชลซี และนิโคลัส โดมิงเกซ กองกลางจากโบโลญญา

ข้อเสนอวันครบกำหนดที่โดดเด่นอื่น ๆ ได้แก่ :

ไรอัน กราเฟนแบร์ช จากบาเยิร์น มิวนิคไปลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 34.3 ล้านปอนด์

อันซู ฟาติ จากบาร์เซโลนาไปไบรท์ตันแบบยืมตัว

เบรนแนน จอห์นสันจากน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ไปไบรท์ตันด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์

อเล็กซ์ อิโวบีจากเอฟเวอร์ตันไปฟูแล่มด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์

เคลมองต์ ลองเลต์ จากบาร์เซโลนาไปแอสตัน วิลล่าแบบยืมตัว

อัลเบิร์ต แซมบี โลคองก้า จากอาร์เซน่อล ไป ลูตัน ทาวน์ แบบยืมตัว

เมสัน กรีนวู้ด จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป เกตาเฟ่ แบบยืมตัว (เอกสารสัญญาระบุว่า เขายังมีพันธะกับยูไนเต็ด ถึงปี 2025)

ร็อบ โฮลดิ้งจากอาร์เซนอลไปคริสตัล พาเลซด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์

หลุยส์ ซินิสเตอร์ร่า จากลีดส์ ไป บอร์นมัธ แบบยืมตัว

ขาเข้าจบแล้ว ระวังขาออก

ซาอุฯยังเปิดอยู่นะ…เตร็ง!!!!

บีแหลมสิงห์™️✍🏻

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *