7 พฤษภาคม 2024
hilight-หลัก Sport

ปรีวิวฟันธงพรีเมียร์ลีก (13-08-2023)

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแรกของฤดูกาล 2023-24 ในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม มีลงทำการแข่งขัน 2 คู่ด้วยกัน 

20.00น. เบรนท์ฟอร์ด – ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์  

เริ่มกันที่คู่แรกฟาดแข้งในเวลา 20.00น. “ผึ้งน้อย” เบรนท์ฟอร์ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์  

เจ้าถิ่นยังคุมทีมโดย โธมัส แฟรงค์ เหมือนเดิมขยับเสริมทัพพอสมควร หลัก ๆ คือการซื้อ มาร์ค เฟลคเค่น ผู้รักษาประตูเข้ามาแทน ดาบิด ราย่า ที่ต้องการย้ายออกจากทีม รวมไปถึงการทุ่มซื้อ เนธาน คอลลิ่นส์ มาจากวูล์ฟส์ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร แต่เกมนี้จะไม่มี อีวาน โทนีย์ หัวหอกคนสำคัญที่โดนแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลด้วยข้อหาเล่นการพนัน ที่ต้องรอทดสอบความฟิตคือ แฟรงค์ ออนเยก้า และคริสเตียน นอร์การ์ด นอกนั้นอยู่ครบ เกมรุกวาง ไบรอัน เอ็มเบอูโม่, โยอัน วิสซ่า และเควิน ชาเดอ เป็นตัวชูโรง  

ทางฝั่งทีมเยือน สเปอร์ส เปลี่ยนแปลงทีมตั้งแต่โค้ชไปดึง อังเก้ ปอสเตโคกลู ข่าวร้ายคือการเสีย แฮร์รี่ เคน ดาวยิงคนสำคัญไปให้กับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เกมนี้ไม่มี โรดริโก้ เบนตานคูร์ มิดฟิลด์อุรุกวัยที่บาดเจ็บ แกนหลักที่เหลือถือว่าพร้อม มาในระบบ 4-3-3 วาง อิฟส์ บิสซูม่า คุมแดนกลางร่วมกับ ปีแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ค โดยมี เจมส์ แมดดิสัน เป็นตัวปั้นเกมรุกสนับสนุนสามแดนหน้าอย่าง เดยัน คูลูเซฟสกี้, ริชาร์ลิซอน และซน ฮึง-มิน  

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด สเปอร์ส เหนือกว่าเล็กน้อย ชนะ 2 เสมอ 2 และเบรนท์ฟอร์ด ชนะ 1  

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

เบรนท์ฟอร์ด (4-3-3): มาร์ค เฟลคเค่น, อารอน ฮิคกี้, อีธาน พินน็อค, เบน มี, ริโก้ เฮนรี่, มิคเคล ดาร์มสการ์ด, วิตาลี่ ยาเนลท์, มาติอัส แยนเซ่น, ไบรอัน เอ็มเบอูโม่, โยอัน วิสซ่า และเควิน ชาเดอ    

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (4-3-3): กิลเยลโม่ วิคาริโอ้, เอแมร์ซอน รอยัล, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟ่น, เดสตินี่ อูโดจี้, เจมส์ แมดดิสัน, อิฟส์ บิสซูม่า, ปีแอร์ เอมิล-ฮอยเบียร์ค, เดยัน คูลูเซฟสกี้, ริชาร์ลิซอน และซน ฮึง-มิน     

ทรรศนะ: เบรนท์ฟอร์ด มีการเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่ง แต่แกนหลักของพวกเขายังอยู่ครบ อาจจะต้องกังวลในเรื่องของกองหน้าตัวเป้าเพราะไม่มี อีวาน โทนีย์ อีกหลายเดือน ส่วนสเปอร์ส ปรับทัพครั้งใหญ่ การไม่มี แฮร์รี่ เคน ถือว่าส่งผลกระทบอย่างหนัก เชื่อว่าตัวแทนอย่าง ริชาร์ลิซอน คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกพอสมควร ถือว่าเป็นเกมที่สูสี มีโอกาสที่จะออกเสมอสูง และน่าจะยิงกันเยอะ      

สกอร์ที่คาด: เบรนท์ฟอร์ด 2-2 ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์

22.30น. เชลซี – ลิเวอร์พูล  

ถือว่าเป็นคู่เอกของสัปดาห์แรกในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023-24 เพิ่งเปิดศึกนอกสนามในการไล่ล่าคว้าตัว มอยเซส ไคเซโด้ คราวนี้ต้องมาดวลในเวลา 22.30น.

“สิงห์บลูส์” เชลซี ผิดหวังจากผลงานในซีซั่นที่แล้ว ซัมเมอร์นี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แทบจะยกทีม รวมไปถึงผู้จัดการทีมได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ามาคุม เกมนี้หมดสิทธิ์ใช้งาน คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แข้งใหม่ที่บาดเจ็บหนักพัก 4 เดือน เช่นเดียวกับ เวสลีย์ โฟฟาน่า และเบอนัวต์ บาเดียชิล ส่วน โนนี่ มาดูอาเก้ ต้องรอเช็คความฟิต ที่เหลืออยู่ครบ ปรับมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 แข้งใหม่อย่าง อักเซล ดิซาซี่ น่าจะได้ลงคุมแนวรับร่วมกับ เลวาย โคลวิลล์ คู่มิดฟิลด์ใช้ คอนอร์ กัลลาเกอร์ เล่นกับเอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ แนวนำโดย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, คาร์นีย์ ชุควูเมก้า, มิคายโล มูดริค และนิโกลัส แจ็คสัน

ฝั่งทีมเยือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยกเครื่องในแดนกลางเสียทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และฟาบินโญ่ ทำให้ต้องเร่งหาตัวแทน แต่เกมนี้น่าจะยังไม่ทัน ความไม่พร้อมในเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ธีอาโก้ อัลคันทาร่า และสเตฟาน บายเซติก ที่เพิ่งหายเจ็บและกลับมาซ้อม คาดว่า เคอร์ติส โจนส์ อาจจะได้ออกสตาร์ทตัวจริงในแดนกลางเล่นร่วมกับ โดมินิค โซโบสไล และอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ สามแนวรุกเลือก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ประสานงานกับ โคดี้ กัคโป และดีโอโก้ โชต้า  

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม 5 เกมหลังสุด เสมอทั้งหมด แถมเป็นการเจ๊า 0-0 ถึง 4 เกมติด   

11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

เชลซี (4-2-3-1): เกปา อาร์ริซาบาลาก้า, รีซ เจมส์, อักเซล ดิซาซี่, เลวาย โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์, คอนอร์ กัลลาเกอร์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, คาร์นีย์ ชุควูเมก้า, มิคายโล มูดริค และนิโกลัส แจ็คสัน   

ลิเวอร์พูล (4-3-3): อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โดมินิค โซโบสไล, เคอร์ติส โจนส์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป และดีโอโก้ โชต้า  

ทรรศนะ: เชลซี ต้องใช้เวลาในการปรับจูนทั้งระบบการเล่นและนักเตะใหม่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ที่ยกเครื่องแดนกลาง เกมรับยังเป็นปัญหาของพวกเขา แม้จะยิงได้เยอะ แต่ก็เสียประตูง่ายเหลือเกิน ย้อนดูสถิติการเจอของทั้งสองทีมแทบจะเป็นลมเสมอกันมา 6 เกมในทุกรายการ โดยเฉพาะ 4 นัดหลังสุด ยิงกันไม่ได้เสมอออก 0-0 ทั้งหมด ซึ่งเกมนี้ก็มีโอกาสที่จะออกเสมออีก แต่เชื่อว่าน่าจะมีสกอร์กันทั้งสองฝั่ง       

สกอร์ที่คาด: เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *