การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือ “ยูโร 2024” ได้ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ชมกันแบบจุใจ 1 เดือนเต็ม แชมป์ตกเป็นของ “กระทิงดุ” สเปน ที่มาดีตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันสุดท้าย นี่คือบทสรุปของทัวร์นาเมนต์นี้
แชมป์: สเปน (แชมป์สมัยที่ 4 1964, 2008, 2012 และ2024)
ลงเล่น 7 เกม ชนะ 7 ยิง 15 ประตู เสีย: 4 ประตู
นักเตะยอดเยี่ยม: โรดรี้ เอร์นานเดซ (สเปน)
ดาวรุ่งยอดเยี่ยม: ลามีน ยามาล (สเปน)
ดาวซัลโว: 3 ประตูเท่ากัน ได้แก่ ดานี่ โอลโม่ (สเปน), แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ), โคดี้ กัคโป (เนเธอร์แลนด์), จามาล มูเซียล่า (เยอรมัน), อีวาน ชรานซ์ (สโลวะเกีย) และจอร์เจส มิเคาต๊าดเซ่ (จอร์เจีย)
จอมแอสซิสต์: ลามีน ยามาล (สเปน) 4 ครั้ง
จำนวนประตูที่เกิดขึ้น: 117 ประตู (51 เกม) ค่าเฉลี่ย 2.29 ประตูต่อเกม
ทำเข้าประตูตัวเอง: 10 ประตู (ยังไม่ทำลายสถิติเดิมของปี 2020 ที่ทำไว้ 11 ประตู)
สถิติลูกหนังที่ถูก ลามีน ยามาล ทำลาย
๐ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ลงสนามในรอบสุดท้ายฟุตบอลยูโร กับ โครเอเชีย ด้วยวัย 16 ปี 338 วัน
๐ เป็นนักเตะอายุน้อยที่ืสุดในประวัติศาสตร์ที่จ่ายให้เพื่อนทำประตูในรอบสุดท้ายยูโร กับ โครเอเชีย ด้วยวัย 16 ปี 338 วัน
๐ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในรอบสุดท้ายของฟุตบอลยูโร กับ ฝรั่งเศส ด้วยวัย 16 ปี 362 วัน
๐ ทุบสถิติเดิมของ โยฮัน ฟอนลันเตน กองหน้าของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยทำไว้ในยูโร 2004 ด้วยวัย 18 ปี 141 วัน ยิงได้ในรอบแบ่งกลุ่มที่พบกับ ฝรั่งเศส เช่นกัน
๐ นอกจากนี้ ลามีน ยามาล ทุบ 2สถิติของ “ไข่มุกดำ” เปเล่ อัญมณีที่แสนเลอค่าแห่งวงการฟุตบอล
1.เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ โดย เปเล่ ทำไว้ในฟุตบอลโลก 1958 ด้วยวัย 17 ปี 239 วัน
2.เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ได้ลงเล่นในรอบรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ โดย เปเล่ ทำไว้ในรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 1958 ในเกมที่พบกับฝรั่งเศส ในวัย 17 ปี 244 วัน
“เปเป้” อายุมากสุดลงเล่นยูโร
เปเป้ แนวรับทีมชาติโปรตุเกส ทำสถิติกลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ลงเล่นในศึกยูโรรอบสุดท้ายด้วยวัย 41 ปี 130 วัน ทุบสถิติเดิมของ กาบอร์ คิราลี่ นายทวารทีมชาติฮังการี ที่เคยทำไว้ในยูโร 2016 (40 ปี 86 วัน)
“โด้”มนุษย์คนแรกเล่นยูโร 6 สมัย
คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ลงเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลยูโรถึง 6 สมัย หลังออกสตาร์ทเมื่อปี 2004 ที่โปรตุเกสชาติของเขาเป็นเจ้าภาพและไม่เคยพลาด น่าเสียดายที่ ยูโร 2024 เขาไม่สามารถยิงประตูได้ และนี่คือฟุตบอลยูโรหนสุดท้ายของเขา
“โมดริช”แก่สุดยิงยูโรรอบสุดท้าย
ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์จอมเก๋าของทัพ “ตราหมากรุก” โครเอเชีย จารึกชื่อกลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทำประตูในฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายในเกมที่เสมอกับ อิตาลี 1-1 ด้วยวัย 38 ปี 289 วัน ทุบสถิติเดิมของ อิวิก้า วาสติช อดีตจอมทัพชาวออสเตรีย ที่ถือครองมา 16 ปี (38 ปี 257 วัน)
“บายรามี่”ยิงเร็วสุด
เนดิม บายรามี่ จอมทัพของทีมชาติแอลเนเนีย กลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึกฟุตบอลยูโร รอบสุดท้าย หลังตะบันใส่ อิตาลี ตั้งแต่ 23 วินาที ทำลายสถิติเดิมของ ดิมิทรี ครีเชนโก้ จากรัสเซียที่ทำเอาไว้ 67 วินาที ก่อน เมริห์ เดมิรัล ของตุรกีจะมาโขกในรอบน็อคเอาท์ที่พบกับ ออสเตรีย เป็นสถิติเร็วสุดลำดับสอง 57 วินาที